วันที่ 18 เม.ย.66 พ.ต.ท.ชุมพล สุขภัคดี สว.สส.สภ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้ลงพื้นที่บริเวณหลังร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาล เพื่อตรวจสอบหาหาหลักฐาน คนร้ายที่ใช้เท้าถีบรถเก๋งจนบุบรอบคัน หลังนายพลากร อาชีพนักดนตรี และนางสาวจริยาพร แฟนสาว ได้เข้าแจ้งความว่า เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 14 เม.ย.66 ได้จอดรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ มาสด้า 3 สีแดง หมายเลขทะเบียน กล 529 ราชบุรี ไว้ที่หน้าร้านอาหารก่อนจะเข้าไปเล่นดนตรี แต่ในคืนนั้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการที่ร้านเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ที่จอดรถแทบไม่พอ จึงอาจจะไปจอดรถขวางบ้างเล็กน้อยประกอบไม่ได้ปลดเบรคมือและเข้าเกียร์ว่างไว้เพราะเป็นรถคันใหม่จึงไม่คุ้นกับการปลดเกียร์ว่างว่าต้องทำอย่างไร แต่ได้เขียนโน้ตแปะไว้ที่หน้ารถว่า ถ้าจะขยับรถให้โทรตามเบอร์ ที่เขียนไว้ แต่พอเล่นดนตรีเสร็จออกมาก็พบว่ารถถูกถีบจนรถบุบรอบคัน จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองราชบุรี
ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพร้อมทั้งให้เจ้าของรถมาชี้จุดที่จอดรถด้วย เพื่อเก็บหลักฐาน รวมทั้งจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาผู้กระทำผิดที่มาฝากรอยเท้าไว้ที่รถผู้เสียหาย ในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากในบริเวณนั้นมีร้านอาหารใกล้กันหลายร้าน
จากการสอบถามนายพลากร ก็บอกว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษรถที่ตนไปจอดขวาง ตนไม่มีเจตนาที่จะจอดขวาง ช่วงนั้นเป็นเวลาที่รถเยอะจริงๆ มันจอดรถซ้อนกันหลายคัน แค่อยากหาคนทำผิด ไม่ต้องทำรุนแรงขนาดนี้ก็ได้ เรารู้ว่าเราผิด อยากให้มาคุยกันดีๆ ช่วงขณะนั้นก็มีเพียงแค่ 2 ร้านอาหารที่อยู่ใกล้กันสามารถที่จะประกาศหาได้ เพราะคนช่วงนั้นมันเยอะมาก สันนิษฐานว่า ช่วงนั้นน่าจะกลับก่อน และออกไม่ได้ ซึ่งช่วงนั้น เป็นช่วงที่เริ่มการแสดง ก็ไม่แน่ใจว่า เป็นรถที่จอดขวางอยู่หรือเปล่า หรืออาจจะมีเรื่องกัน ข้างนอก หรืออาจจะมาลงที่รถผมก็ได้ อยากจะฝากว่า ที่จอดขวาง ก็ยอมรับผิด แต่ที่ทำ ก็รุนแรงเกินไป อยากให้ตามหาตัวก่อน ซึ่งมันเป็นวันไหลและปาร์ตี้ด้วย ซึ่งปาร์ตี้ มันมี 2 ร้านติด คนเยอะมาก ทำให้ไม่มีที่จอดรถ
ด้านนายสุชาครีย์ โทจันทร์ นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ก็บอกว่า วันนั้นขับรถ jazz สีเหลืองเข้ามา แต่เราจอดและปลดเกียร์ว่าง พอลงจากรถ เราได้ยินเสียง เหมือนคนทุบกระโปรงรถ มีเสียงดัง ปึ๊บๆบึ้มๆ เพื่อนที่มาด้วยก็ได้ยินและมีเสียงผู้ชายผู้หญิงทะเลาะกัน จึงได้วิ่งเข้างานเลย ช่วงประมาณ 22:00 น ซึ่งมีรถประมาณ 3 คัน มีการประกาศให้ไป ขยับรถแต่ไม่ใช่รถเรา ก็เลยไม่ไป แต่ผ่านมาอีก 2-3 วัน ก็มีการโพสต์ในเฟซ ก็เลยเข้าไปคอมเม้น ที่เห็นวันนั้น เป็นผู้ชายตัวสูง และผู้หญิงตัวเล็กๆ เดินวนเวียนอยู่แถวบริเวณต้นไม้ แต่ไม่รู้ว่าจะใช่คนที่มาทุบรถหรือไม่
ส่วนนางสาวจริยาพร กล่าวว่า พอดีวันสงกรานต์ มาส่งแฟนที่ร้าน และวันนั้นรถเยอะมาก ช่วงประมาณ 21.00 น จะหาที่จอดไม่ได้เลย จึงพยายามหาที่จอดที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ค่อยมีคนเข้าออก จึงตัดสินใจมาจอดด้านหลัง ที่เป็นลานดินไม่ใช่ลานจอดสาธารณะ จุดที่จอดรถ มีรถเมล์จอดอยู่ มีรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ แต่ด้านท้ายไม่มีรถ จอดซ้อนท้าย ซึ่งเวลาจอด ก็ไม่ได้จอดชิด สามารถขยับได้ เว้นช่องไว้โดยจอดบริเวณหน้ารถเมล์ ด้านหลังไม่มีรถต่อท้าย สามารถออกได้ ตรงนี้ เขาอาจจะทำไม่ได้ ตามที่เราเข้าใจ
ในปัจจุบันเพิ่งซื้อรถมาไม่นาน ประมาณ 3-4 เดือน การปลดเบรคมือและเข้าเกียร์ว่าง ก็ทำไม่เป็น และไม่เคยเรียนรู้ถึงเบรคมือเลย ซึ่งรถคันนี้ เมื่อจอด เบรคมือก็จะล็อคอัตโนมัติเลย วันนั้น ได้ทราบภายหลังว่ามีคน ประกาศ ให้ขยับรถ เพียงร้านเดียว แต่เราไปอยู่อีกร้านหนึ่ง ทุกวันนี้ถูกโลกโซเชียล ด่าเยอะมาก เราก็เสียใจ เรายอมรับว่าตัวเองผิด เมื่อพูดไปก็หาว่าเป็นข้ออ้าง ไม่ได้ตั้งใจแต่สถานการณ์มันบังคับ