"บิ๊กตู่"คุยประธานสภาธุรกิจฝรั่งเศส เชื่อมสัมพันธ์การค้า พร้อมชวนลงทุนรับไทยแลนด์ 4.0ไทย วันที่ 13 ต.ค.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย François Corbin ประธานสภาธุรกิจไทย – ฝรั่งเศส และรองประธานบริหาร ฝ่ายภูมิภาคและการจัดการความก้าวหน้าบริษัท Michelin ฝรั่งเศส นำคณะผู้บริหารระดับสูงภาคธุรกิจ จากสภานายจ้างและผู้ประกอบการฝรั่งเศส เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนาย Corbin และคณะสู่ประเทศไทย และแสดงความยินดีที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภานายจ้างและผู้ประกอบการฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรียินดีในโอกาสที่คณะเดินทางมาไทยในครั้งนี้ จะได้พบหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนของไทย ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับฝรั่งเศส เพื่อพัฒนาและต่อยอดความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพ ซึ่งความร่วมมือ ความไว้วางใจ และผลประโยชน์ที่เป็นธรรมเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยยึดถือมาโดยตลอด ไทยยินดีที่ MEDEF มองไทยเป็นจุดหมายและโอกาสในด้านการค้าและการลงทุน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า สภาธุรกิจไทย-ฝรั่งเศสจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนให้มีพลวัตมากยิ่งขึ้น รวมถึงจะเป็นเวทีสำหรับการเจรจาในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจและมีผลประโยชน์ร่วมกัน พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนภาคเอกชนฝรั่งเศสให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ในสาขา โครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน เทคโนโลยีดิจิทัล วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ สาธารณสุข เพื่อช่วยสนับสนุนไทย ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยในส่วนของประเทศไทย รัฐบาลพร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เข้าไปลงทุนในฝรั่งเศส แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะถดถอย แต่เศรษฐกิจไทยยังคงยืดหยุ่น ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งถือเป็นหน้าที่สำคัญอันหนึ่งของรัฐบาล ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนผู้ประกอบการฝรั่งเศสใช้ไทย ซึ่งมีที่ตั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์ศูนย์กลางของภูมิภาค เป็นสะพานในการเชื่อมโยงไปยังอาเซียน ตามนโยบายไทย + 1 ของรัฐบาล นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้ภาคเอกชนฝรั่งเศสพิจารณาโอกาสการลงทุนตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้ง First S-Curve การเกษตร และ New-S Curve รวมถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมยาง และโครงการเมืองอัจฉริยะ อีกทั้งรัฐบาลยังมุ่งขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 โดยส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจำต้องเริ่มจากการพัฒนาบุคลากร ทรัพยากรมนุษย์ โดยให้ความสำคัญกับการศึกษา และการพัฒนาศักยภาพของกำลังคน ให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีความร่วมมือทั้งด้านการศึกษาและด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินนโยบายไทยแลนด์ 4.0