“สมคิด”เผย”แจ๊ค หม่า”พร้อมเข้าหนุนไทย เข็นเอสเอ็มอี เติบโตระบบค้าขายออนไลน์ เชื่อมโยงอาลีบาบา ยันไม่หวังยึดศก.ไทย แต่ประทับใจคำพูด บิ๊กตู่ “จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เมื่อเวลา14.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงที่ประชุม ถึงการที่นายแจ๊ค หม่า ประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา เข้าพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า นายแจ๊ค หม่าระบุว่าในอดีตที่ผ่านมา เขาไม่เคยมองประเทศไทย เนื่องจากวิธีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย อาจไม่ตรงกับใจของเขา แต่เขาของเขามองในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลายที่มีส่วนสนับสนุนส่งเสริมเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำ โดยเฉพาะเรื่องคมนาคมขนส่ง สาธารนูปโภค อี-เพย์เม้นท์ หรือการใช้จ่ายผ่านระบบบัตรเครดิต สิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์กับสิ่งนายแจ๊ค หม่าคิด จึงเริ่มหันมามองไทย โดยนายแจ๊ค หม่าพยายามมองอนาคต พยายามฝึกฝนคนรุ่นใหม่ จึงได้มีการพูดคุยกันหลายประเด็นกับนายสมคิด ประเด็นแรกคือ นายแจ๊ค หม่ายืนยันว่าไม่ต้องการเข้ามาครอบครองหรือฮุบเศรษฐกิจไทย แต่จะเป็นการเข้ามาเชื่อมโยงรูปแบบการค้าขายออนไลน์ของอาลีบาบาที่กระจายไปทั่วโลก กับรูปแบบการค้าขายออนไลน์ของไทยที่ยังอยู่ในวงจำกัด ดังนั้นการค้าขายสินค้าของไทย จากที่คนในตลาดทั่วไปจะเห็นแค่ไม่กี่คนก็จะกระจายไปทั่วโลก นั่นคือเราจะทำรูปแบบของเราให้แข็งแรงขึ้น ประเด็นที่สอง นายแจ๊ค หม่า ยินดีสนับสนุนการฝึกอบรม เรื่องการค้าขายในตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งเขายกตัวอย่างว่า เฉพาะที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เขาฝึกอบบรมคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ด้านอินเตอร์เนต เพื่อสามารถค้าขายออนไลน์ได้ ถึง 35,000 ราย เขาจึงเชื่อมั่นว่าถ้ามีส่วนช่วยฝึกอบบรมให้เอสเอ็มอีไทย จะสามารถสร้างผู้ประกอบการรายใหม่บนโลกออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น ประเด็นที่สาม นายแจ๊คหม่าอยู่กับการค้าขายบนโลกออนไลน์มาหลายปี ทราบดีว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะมีลูกเล่นคิดมิชอบ คิดทุจริตที่จะโกงคนอื่น เขาจึงมีประสบการณ์ในช่องโหว่เหล่านี้ และเขาพร้อมที่จะถ่ายทอดข้อมูลเหล่านี้ให้ประเทศไทย เพื่อให้มีมาตรการรองรับ ป้องกัน นอกจากนี้ นายแจ๊ค หม่า ยินดีที่จะมีส่วนช่วย สนับสนุน ส่งเสริม ให้ความร่วมมือกับไทย เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการค้าขายธุรกิจเอสเอ็มอี และเชื่อโยงไปประเทศโดยรอบ “เขาเน้นย้ำว่า ไม่ได้ต้องการเข้ามาครอบงำธุรกิจของเมืองไทย แต่ต้องการมาช่วย เพราะเขาเติบโตมากเกินพอแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีก แต่อยากจะพาคนอื่นๆไปด้วย ซึ่งเห็นว่านายกฯเคยพูดว่า เราจะก้าวไปด้วยกันและไม่ทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลัง ซึ่งเขาบอกว่าตรงใจ ก็เลยพยายามเข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริม สนับสนุนให้กับประเทศของเรา และยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้ต้องการเขามาฮุบ ควบรวมธุรกิจในประเทศไทย”พล.ท.สรรเสริญ กล่าว