วันนี้ (16 พ.ย.65)  ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือกจากนายบุญจันทร์ พนารินทร์ อายุ 63 ปี บ้านอยู่ที่ตำบลหนอง  บัวอำเภอศีขรภูมิ  จังหวัดสุรินทร์อดีต   นักมวยชื่อดังฉายาขุนเข่าสะท้านฟ้า ที่ขนานนามว่านพเดช พ.ธวัชชัยหรือ นพ เดชท อาระยะ บอกว่า ว่า แฟนตนเองชื่อน.ส.ปิ่นประภา แก้ววิเศษ อายุ 43 ปี   ได้อยู่กินกันมานานร่วม 30  ปี  ได้ หายออกจากบ้านไปนานนนับเดือนตามหามาหลายจังหวัด แม้กระทั่ง กรุงเทพฯตามหารอย่างไร ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเห็นจึงเดินทางมาร้องกับผู้สื่อข่าวเพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ประกาศตามหาแฟนให้เกรงว่าจะถูกหลอกลวง ไปในทางไม่ดี   ถ้าหากว่ายังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้ติดต่อมาทางหมายเลขโทรศัพท์ที่หมายเลข 0870129542  เรื่องราวทุกอย่างให้อภัยขอให้ติดต่อกลับมาว่าอยู่แห่งหนตำบลใดขอให้รับว่ามีชีวิตอยู่ก็ดีใจแล้ว

นายบุญจันทร์ กล่าวว่า ตนเองได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับนางสาวปิ่นประภา มานานถึง 30 ปี  แต่ก่อนเคยชกมวยมานับครั้งไม่ถ้วน   ได้เงินจาการชกมวยมาก้อนหนึ่งก็เลยมาซื้อบ้านซื้อรถอยู่ที่ ม.6ต.ทวีพัฒนา  อ.ไทรน้อยจ.นนทบุรี   โดยในระหว่างอยู่ด้วยกันก็แต่ไม่มีลูกเต้าแต่อย่างใด ซึ่งก็ได้ทำมาหากินกันมาอย่างสงบสุขและต่อเนื่องกันมา

และเมื่อวันที่14 ตุลาคม2565 ตนเองได้ให้เงินไปจำนวน  20,000บาทไปชำระค่าไฟแน๊นซ์รถยนต์แต่ตนเองไม่ได้แปลกใจอะไร   เมื่อวันที่25-26ตุลาคม2565   ได้มีบริษัทไฟแนนซ์  โทรศัพท์มาทวงหนี้ตนเองก็เลยตกใจและได้ไปสอบถามนางสาวปิ่นประภา   แต่ก็ไม่สามารถติดต่อ ได้ตนเอง  จึงออกตามหาไปทั้งต่างจังหวัด  และกรุงเทพฯก็ไม่มีท่าทีว่าจะพบจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่   สภ.บางบัวทอง เมื่อวันที่20ตุลาคม2565ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ตนเองไปหาจนทั่วแล้วไม่พบเห็นจึงได้มาร้องขอ พี่นักข่าวช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ตนด้วยและเรื่องทุกอย่างให้อภัยขอให้ได้พบเจอและมีชีวิตอยู่ก็ดีใจแล้ว 

สำหรับนายนบุญจันทร์ พนารินทร์  อดีต เคยชกมวยมานานร่วม  70 ครั้ง  ในนาม   นพเดช พ.ธวัชชัย หรือนพเดชน้อย ท.อาระยะ   ในสมัยที่รุ่งเรือง   ชกได้ค่าตัวบนสังเวียนเวทีน้อยใหญ่ไปทั่วจนกระทั่งได้มาพบรักกับนางสาวปิ่นประภา  แก้ววิเศษ  อายุ  43  ปี   อยู่กินฉันสามีภรรยากันมานานถึง  30  ปี   และได้เงินทองมาจากการชกมวยพากันย้ายถิ่นฐานมาตั้งหลักอยู่กรุงเทพฯจนกระทั่งเมื่อ   วันที่14ตุลาคม   2565ที่ผ่านมานายบุญจันทร์ให้เงินไปชำระค่าไฟแน๊นซ์รถจำนวน   20,000บาท   และได้หายไป ตนเองคิดว่าน่าจะนำเงินไปทำหายหรือนำไปทำอย่างอื่นและไม่กล้า กลับบ้านเกรงว่าตนเองจะต่อว่าจึงไม่ได้กลับบ้านตนเองออกไปหาทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัด  ไม่พบไม่เจอและได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.นนทบุรี เป็นบุคคลสูญหายพร้อมกับวอนสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงช่วยสื่อสารให้แฟนของตนกลับบ้านพร้อมกับให้อภัยทุกอย่าง