เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีครม.มีมติให้ชดเชยความเสียหายให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่น้ำท่วม3,000 บาทต่อครัวเรือน ว่า มีการอนุมัติแล้ว 3,000 บาทต่อครัวเรือน ที่เดิมให้เพียงไร่ละ 1,000 บาท เมื่อถามย้ำว่าในกรณีพื้นที่ที่เสียสละเป็นพื้นที่น้ำท่วมจะมีการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ซึ่งทุกอย่างทั้งเรื่องของการช่วยเหลือ ชดเชยเยียวยา ต้องขอร้องปะชาชนให้เข้าใจ ถ้าวันนี้เราให้คนนี้ไม่ให้คนนั้นก็เป็นปัญหา แล้วเมื่อไหร่จะพอเพียงและชดเชยได้ทุกพื้นที่ วันนี้ตนเห็นใจ เพราะในส่วนของไร่ก็มีอยู่แล้วคือไม่เกิน 15 ไร่ เมื่อถามว่าในระยะยาวเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำจะขอปรับปฏิทินการเพาะปลูกโดยเริ่มจากเดือนเมษายนรัฐบาลจะปรับให้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใครขอ รัฐบาลเป็นคนขอไม่ใช่เกษตรเป็นคนขอ รัฐบาลขอไปว่าจะปลูกเมื่อไหร่ อย่างไร ซึ่งจะต้องปลูกเป็นตอนๆ ลงมา น้ำไหลมาจากตรงไหน ไม่ใช่ทุกพื้นที่จะปลูกเวลาเดียวกัน แต่ต้องปลูกเป็นรอบไปและต้องใช้เครื่องจักรเครื่องมืออีก เราต้องไปดูตรงนั้น ที่เกษตรกรปลูกพร้อมกันเพราะน้ำมา ทุกคนก็อยากมีน้ำเยอะๆ ในพื้นที่ตัวเองก็เก็บกักน้ำเอาไว้ ที่เหลือก็ไม่เพียงพอ ถ้าปลูกพร้อมกันปัญหาคือต้องใช้เครื่องจักรเครื่องมือพร้อมกัน เนื่องจากต้องเก็บเกี่ยวพร้อมกัน อาจไม่เพียงพอ “ผมบอกแล้วว่าอย่าคิดแคบๆ แค่ตรงน้ำท่วม ไปดูแผนผังที่เขาเอามาชี้แจง อยู่นอกพนังกั้นน้ำทั้งสิ้น พร้อมที่จะมีปัญหาเรื่องน้ำล้นทางฝั่งแม่น้ำทั้งสิ้น แต่ก่อนก็อยู่กับน้ำมาตลอด ฤดูไหนน้ำท่วมน้ำแล้งก็ปรับตัวได้ พอรัฐบาลเข้าไปดูแลก็ต้องดูแลด้วยเหตุผล ที่ลุ่มต่ำหรือนอกเขตพนังกั้นน้ำก็ต้องท่วม ถ้าเสียสละก็คือการเสียสละ ผมก็ขอขอบคุณและชมเชยในหลายพื้นที่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รัฐบาลก็หามาตรการช่วยเหลือกันไป แต่ถามว่าถ้าไม่ทำท่วมทั้งหมดจะทำอย่างไร ใครจะมาแก้ปัญหาให้ผม ในเมื่อน้ำลงมาจากข้างบน น้ำข้างๆก็เต็มไปหมด ถ้าไม่ลงทะเลจะให้น้ำไปลงที่ไหนเราต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ ไม่อย่างนั้นจะมาหาว่ารัฐบาล แล้วมาเอาไร่ละ 10,000-20,000บาท เราจะเอาเงินที่ไหนมาให้ เราต้องสอนให้คนเรียนรู้แบบนี้ว่าระบบน้ำ ระบบการเพาะปลูก เก็บเกี่ยวและเทคโนโลยี และตลาดข้าวเป็นอย่างไร” นายกฯกล่าว