ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 เวลา 10.00 น. ตัวแทนภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการร้านขายยาประเทศไทยประมาณ 150 คน นำโดย นายผิน  เจนวัฒนวิทย์ ประธานภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการร้านขายยาประเทศไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่าน นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้สภาเภสัชกรรมผ่อนปรนข้อบังคับบทลงโทษเภสัชกรตามกฎจีพีพี(GPP) ที่กำหนดขึ้นใหม่ให้นั่งประจำร้านโดยไม่ได้ทำประชาพิจารณ์และตรวจสอบว่าเป็นที่ยอมรับหรือไม่ยอมรับของเภสัชกรทั่วประเทศ 

 ทำให้เภสัชกรขอถอนตัวจากการปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านขายยาไม่สามารถจัดหาเภสัชกรให้มาประจำอยู่ร้านตนเองได้ตามที่กฎกระทรวงกำหนดไว้ เนื่องจากจำนวนเภสัชกรที่มีไม่เพียงพอ และยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปถึง โรงพยาบาลรัฐ และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางแห่งขาดแคลนเภสัชกรในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางกฎหมายให้ผู้ประกอบการร้านขายยาแต่ฝ่ายเดียว ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ทรุดตัวลงของประเทศไทย และสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นเหตุให้ประชาชนทุกพื้นที่ในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการรักษาแบบปฐมภูมิได้อย่างยากลำบากหากผู้ประกอบการร้านขายยาปิดตัวลงโดยกฎข้อบังคับที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง โดยจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาหลายๆ ด้าน อาทิ  หน่วยงานรัฐทางด้านสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องทำงานหนัก ส่วนผู้ประกอบการร้านขายยาทั่วประเทศที่เดือดร้อนโดนปิดกิจการต้องตกงานอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดปัญหาครอบครัวที่ไม่สามารถแบกภาระค่าใช้จ่าย พ่อ แม่ ลูก รวมไปถึงลูกจ้างที่ต้องตกงานเป็นภาระให้สังคมในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมที่กำลังจะดีขึ้น

  ผู้ประกอบการร้านขายยาทั่วประเทศจึงเรียกร้องขอความเห็นใจจากท่านนายกฯ ให้สภาเภสัชกรรมทบทวนการออกข้อบังคับ และขอผ่อนปรนการบังคับใช้กฎจีพีพี (GPP) 5 ปี เพื่อชะลอปัญหาการขาดแคลนเภสัชกร และหาทางออกของปัญหาเภสัชกรขอถอนตัวจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงและยั่งยืน