ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2565 เวลา 19.00 น. พ.ต.ท.วิโรจน์ อินทรเพชร สารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ จอดอยู่ริมถนนภายในซอย 17 ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิชิไทรทัน สี่ประตูสีดำ ทะเบียน ฎว 2072 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องยนต์ยนต์อยู่ ใกล้กับทางเข้าโรงเรียนพลวิทยา ตรวจสอบภายในรถพบร่างของผู้ชายนอนเสียชีวิตอยู่ ในลักษณะเอนเบาะนอนราบไปข้างหลัง ทราบชื่อคือ นายภาษิต อายุ 41 ปี สภาพศพเริ่มแข็งทื่อ เสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง ไร้ร่องรอยถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว

โดยที่เกิดเหตุ พบลูกสาว 2 คนของผู้ตาย โดยคนโตอายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 ส่วนคนเล็กอายุ 4 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล ซึ่งลูกสาวคนโตนั่งร้องให้ด้วยความเสียใจ ส่วนลูกคนเล็กคิดว่าพ่อยังนอนหลับอยู่ จากการสอบถามลูกสาวคนเล็ก เล่าว่า พ่อนอนหลับตั้งแต่เช้า ขณะที่พาตนมาส่งหน้าโรงเรียน หลังเพิ่งป้อนข้าวได้เพียง 2 คำ พ่อก็หลับไปพยายามปลุกพ่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ตื่น จึงนั่งอยู่ในรถกับพ่อทั้งวันไม่ได้ลงรถเข้าไปโรงเรียน รอให้พ่อตื่น แม้จะปวดฉี่แต่ก็ไม่กล้าลงจากรถ จนเวลาประมาณ 19.00 น. มีฝนตกหนักและมีเสียงฟ้าร้อง ตกใจกลัว จึงวิ่งเปิดประตูรถไปหาพี่สาวที่รอพ่อมารับ และไปเจอคุณครูพอดี ครูจึงทราบเรื่อง

ด้าน น.ส.ปริญญา แก่นจันทร์ คุณครูชั้นอนุบาล กล่าวว่า ตนพยายามโทรหาพ่อน้องแล้ว เพราะปกติประมาณบ่าย 3 โมง คุณพ่อน้องจะมารับลูกที่โรงเรียน แต่วันนี้มารับช้า ตอนโทรไปลูกสาวคนเล็กรับสาย แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง บอกว่าพ่อหลับอยู่ ขณะที่พี่สาวก็นั่งรอพ่ออยู่ที่โรงเรียนจนค่ำ โดยมีครูอยู่เป็นเพื่อนตลอด เพื่อรอพ่อน้องมารับ

จนประมาณ 1 ทุ่ม ตนเห็นน้องวิ่งมาหาพี่สาว ก่อนที่น้องจะบอกตนว่าพ่อนอนหลับตั้งแต่เช้าในรถ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น จึงคิดว่าไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว เลยรีบวิ่งมาดู ก็พบว่าคุณพ่อน้องเสียชีวิตอยู่ในรถ หลังเกิดเหตุสลด ทางคุณครูได้รับตัว 2 พี่น้องไปดูแลชั่วคราว เนื่องจากทั้งคู่อยู่กับพ่อเพียงลำพัง เนื่องจากคุณแม่นั้นทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งร่างผู้ตายให้กับโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง