หลังจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ที่มีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ที่หมดวาระลง แต่ด้วยเหตุที่กรรมการบริหารสมาคมฯ ที่ดูแลในเรื่องกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆ ขาดความแม่นยำในการแจ้งสโมสรสมาชิกเรื่องการทำหนังสือมอบอำนาจให้ตัวแทนมีสิทธ์ในการลงคะแนน จนทำให้ตัวแทนการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะสักขีพยานแจ้งให่ที่ประชุมทราบถึงความไม่พร้อมดังกล่าว อันจะส่งผลให้การประชุมจะไม่มีผล และเสนอเลื่อนการประชุมที่มีวาระสำคัญตือการเลือกตั้งออกไปไม่เกิน 30 วัน และได้กำหนดลงตัวในวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ภัตตาคารโฮคิทเช่น พระราม 3 เวลา 14.00 น.

ช่วงเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ถ้าเปรียบกับสนามการเมืองใหญ่ก็เหมือนการเดินสายหาเสียงกับ15 สโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์โหวตเลือกตั้งนายกสอยคิว ทางด้าน "บิ๊กฮง" นายสุนทร จารุมนต์ รักษาการนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย มั่นใจว่าตลอดระยะเวลาในการทำงานของตน้องไเ้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จนเป็นที่พอใจกับสโมสรสมาชิก มีทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันระดับชาติ ประชาชน เยาวชน และยุวชน รวม 13 รายการ/ปี ที่ทำให้นักกีฬามีรายได้จากเงินรางวัล และเวทีสะสมประสบการณ์จากการแข่งขันเป็นที่พอใจกับนักกีฬาและสโมสรสมาชิก รวมถึงระบบการจัดการแข่งขันที่ได้มาตราฐานเป็นที่ยอมรับ ส่วนการเลือกตั้งที่กำลังมาถึงในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ หากตนยังได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิกให้กลับมาบริหารงานสมาคมฯอีกครั้งืตนเองพร้อมเปิดกว้างรับฟังในทุกๆปัญหาจากสโมสรสมาชิก และตนเองมีแนวคิดเปิดกว้างรับสมาชิกเพิ่มขึ้น และยกระดับการจัดการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ท้ายนี้ "บิ๊กฮง" ย้ำความมั่นใจส่วนตัวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ สโมสรสมาชิกที่มีสิทธ์โหวตลงคะแนนทุกคนมีศักดิ์ศรีของตนเอง ที่ไม่สามารถใช้เงินมาซื้อไม่ได้

ทางฝั่งของผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกสอยคิวอย่าง "เอสวัน" นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ ผู้จัดการสนุ้กเกอร์ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนาม ที่อาสานำความเปลี่ยนแปลงมาสู่วงการสอยคิวไทยด้วยนโยบายบูรณาการให้สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ให้เป็นสมาคมต้นแบบสร้างการมีส่วนร่วมของกรรมการบริหารอย่างมีระบบ โปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ รวมถึงเปิดรับสมาชิกสามัญเพิ่มขึ้น และแก้ไขข้อบังคับให้สอดคล้องหลักธรรมาภิบาลมากที่สุด "เอสวัน" ยังย้ำถึงการเพิ่มการแข่งขันสอยคิวให้มากขึ้นในทุกระดับ ครอบคลุมและชัดเจน มีโควต้าสำหรับแชมป์แต่ละรายการที่จะได้สิทธ์แข่งขันระดับชาติและระดับโลก เน้นการจัดการแข่งขันแนวสปอร์ตเอนเตอร์เทนเม้นต์ที่สร้างความบันเทิงรอบด้านให้กับผู้ชมนอกเหนือจากผลการแข่งขัน เพิ่มสนามแข่งขันและศูนย์เก็บตัวทีมชาติและเยาวชนเพื่อความเป็นเลิศอย่างเหมาะสม พัฒนาศูนย์ฝึกระดับภูมิภาคืและโรงเรียน เพื่อก้าวสู่การนำสนุ้กเกอร์ออกจาก พรบ.การพนัน ที่สำคัญคือการจัดทำกองทุนสวัสดิการหรือประกันสังคมให้กรรมการและนักกีฬาเพื่อความมั่นคง

ทั้งหมดเป็นนโยบายที่ทั้ง "บิ๊กฮง" และ "เอสวัน" ต่างมั่นใจว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับวงการสอยคิว หากได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิกให้เข้ามาทำงาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจจาก 15 สโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์โหวตว่านโยบายของว่าที่นายกสอยคิวคนใดเป็นรูปธรรมจับต้องได้และสร้างสรรประโยชน์ต่อชาวสอยคิวมากว่า ชัดเจนกว่ากัน 19 สิงหาคมนี้ คงได้รู้กัน