เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 ส.ค.65 พ.ต.ท.ขจรจักษณ์  ชูแป้น  สว.สส.(สารวัตรสืบสวน)สภ.สวี   ร.ต.ท.ถวัลย์  จันทร์สิงขรณ์ รอง สว.(ป) สภ.สวี ด.ต.วิไชยชาญ  ล่องหลง  และจ.ส.ต.สุนันต์  คล้ายอักษร พร้อมกำลังรวม 10 นาย ตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัด บนถนนคอนกรีตสายบ้านในลุ่ม บริเวณใกล้สะพานสวีพัฒนา ข้ามคลองสวี รอยต่อระหว่างหมู่ 5 ตำบลนาโพธิ์กับหมู่ 4 ตำบลสวี อ.สวี จ.ชุมพร 
      

 โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด  ชุดของร.ต.ท.ถวัลย์  จันทร์สิงขรณ์ รอง สว.(ป) ทำหน้าที่ตรวจด้านวินัยจราจร ตั้งด่ายอยู่ฝั่งหมู่ 5 ตำบลนาโพธิ์  ส่วนพ.ต.ท.ขจรจักษณ์  ชูแป้น  สว.สส.(สารวัตรสืบสวน) พร้อมพวกอยู่ฝั่งหมู่ 4 ตำบลสวี อยู่คนละหัวสะพานฝั่งคลอง พร้อมอาวุธครบมือทำหน้าที่เน้นตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายเช่น  ยาเสพติด อาวุธ  หรือบุคคลตามหมายจับ 
         

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ชุดปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีนายณัฐพล  (สงวนนามสกุล)อายุ 25 ปี อยู่ จ.ชุมพร ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียนชุมพร  ผ่านขึ้นสะพาน จ๊ะเอ๋กับด่านตรวจจึงหยุดรถบนสะพานสวีพัฒนา  พร้อมกับโยนสิ่งของบางอย่างลงคลองลอยตามกระแสน้ำไปเป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดตรวจจราจร ของร.ต.ท.ถวัลย์ไล่ติดตามมาเห็นเข้าพอดี โดยนายณัฐพลมีอาการส่อพิรุธ ผิดสังเกตจึงเข้าควบคุมตัว รับสารภาพว่าได้โยนยาบ้าจำนวน 2 เม็ด ลงคลองไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่ามีแค่สองเม็ด ขณะเดียวกันมีเรือประมงหางยาวของชาวบ้านเล่นผ่านมาจึงขอความร่วมมือ ลงค้นหายาบ้าที่ลอยตามกระแสน้ำกระทั่งพบจึงนำขึ้นมาตรวจสอบ
     

 พบว่ายาบ้าบรรจุอยู่ในขวดแก้วขนาดเล็กจำนวน 2 ขวดโดยมีถึงพลาสติกใสห่อหุ้มอีกชั้นรวมมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)รวม  7 เม็ดและแผ่นฟรอยอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนหนึ่ง  นายณัฐพล ถึงกับหน้าซีดซึ่งก่อนหน้านี้ได้โกหกเจ้าหน้าที่ว่าทิ้งไปแค่ 2 เม็ดสุดท้ายจำยอมด้วยหลักฐาน พร้อมกับรับว่าเมื่อคืนเสพมาแล้ว 2 เม็ด ส่วนที่เหลือเก็บติดตัวไว้ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์จากตัวเมืองชุมพรมุ่งหน้าเข้าอำเภอสวีเพื่อทำงานแต่ถูกจับเสียก่อน
     

 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปยังสภ.สวี เพื่อสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ค้าและหลังจากตรวจสอบประวัตินายณัฐพล พบว่าเคยต้องคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยออกจากเรือนจำเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป