วันที่ 11 ส.ค.65 โหรฟองสนาน จามรจันทร์ แม่หมอสมัครเล่น โพสต์ข้อความใน เฟซบุ๊กส่วนตัว Fongsanan Chamornchan ระบุว่า ...

แม่หมอสมัครเล่นตอนที่439 โดยฟองสนาน จามรจันทร์

น้ำใหญ่กำลังจะมา

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตราศีเมษนั้น ด้านร้าย(ด้านดีก็มี)เริ่มตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2563 มาแล้วที่ประชาชนเริ่มเข้าเคราะห์เดือดร้อนทั้งด้านเศรษฐกิจ-ภัยพิบัติ-สูญเสียใหญ่ถ้าเป็นสมัยก่อนเรียกชาวบ้านเจอสภาวะข้าวยากหมากแพง

ที่ร้ายโดดเด่นหนักหนาที่สุดและยังอาละวาดอยู่คือภัยจากโควิด-19 แถมด้วยรัสเซียรบยูเครน และจีนก็กำลังจะซัดกับอเมริกาด้านเศรษฐกิจอีก

ถ้าเป็นคนผู้เขียนจะสะกิดและบอกว่าดวงกำลังตกที่สุดในรอบสามสิบปี

โดยเกณฑ์ทางโหรที่เป็นลางบอกเหตุคือ

1.ตั้งแต่1มีนาคม2563มาแล้ว พระเสาร์จร(7)ตัวโทษ-ทุกข์-เทพเจ้าแห่งความระทมเริ่มเข้าไปเดินในราศีมังกรภพที่สิบของดวงเมืองเล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม(๒)ที่เป็นตัวแทนประชาชนผลคือพลเมืองพากันเจ็บไข้ได้ป่วยมีหนี้เสียเงินทองเศร้าโศกสูญเสียเครียดตามโฉลก… เสาร์เล็งพระเคราะห์จันทร์ นระนั้นบ่มิสบาย ทรัพย์สินจะสูญหาย อุปสรรคจะมีมา ข้าคนและลูกเมีย ก็จะเสียและโศกา ขอคุณพระรักษา ชนมชีพจะยืนนาน…

2.พระเสาร์จร(7)ยังทำมุมถึงพระศุกร์ดวงเดิม(๖)คู่ศัตรูใหญ่ผลตามโฉลกคือ ..เสาร์ถึงพระเคราะห์ศุกร์ ปะทะทุกข์พยาธิ์เยือน โรคร้ายและหลายเดือนก็จะกลับจะหลายเป็น(ฝีดาษลิงกลับมาอีก?) โจรร้ายเขม้นมอง(คนชั่วจ้องโกงชาวบ้านแบบคอลเซ็นเตอร์?เป็นต้น) อิริปองจะทำเข็ญ อายุบ่ยืนเย็น มฤตภัยจะเร่งเกรง..

เกณฑ์นี้ผลอีกอย่างที่ตามมา การทำมาหากินฝืดเคือง เพราะพระศุกร์เป็นตัวแทนการทำมาหาได้ของเมือง-เจออิทธิพลเสาร์จอมทุกข์เข้าอย่างจัง

3.ตั้งแต่วันเกิดเมืองที่21เมษายน 2565เป็นต้นมา-1มีนาคม 2566 ภัยจากพระเสาร์ดีงที่กล่าวมาทั้งสองข้อจะแรงผิดปกติเพิ่มเป็นสองเท่า เพราะพระเสาร์เดินในราศีมังกรได้มาตรฐานเกษตราธิบดีเข้มแข็งแต่เป็นกาลิกิณีจร-เรื่องร้ายจึงแรงผิดปกติ

4.ตั้งแต่ 8เมษายน 2565มาแล้วพฤหัสบดีจร(5)หัวหน้าเทวดาประจำเมืองเดินเข้ามุมอับที่ราศีมีนคุ้มครองเมืองได้น้อยและจะเป็นไปถึงประมาณ19เมษายน2566

ด้วยหลักโหรทั้งสี่ข้อดังกล่าวข้างต้น ประชาชนจึงเจอเกณฑ์ด้านร้ายของเมืองครบสูตรทั้งดิน-น้ำ-ลม-ไฟ-โรคระบาดฯลฯ

สำหรับเรื่องน้ำนั้นไม่น่าไว้วางใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะจากนี้ไป

ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้เคยทำนายเตือนไว้ในแม่หมอสมัครภาคพิเศษในไทยโพสต์ ถึงดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี2565ส่วนหนึ่งว่า มีแนวโน้มน้ำจะท่วมใหญ่วงกว้างกว่าปี2564ที่ท่วมใหญ่เป็นจุดๆเช่นล่มน้ำชี

มาถึงวันนี้ก็ยังย้ำอยู่เหมือนเดิมว่าปีนี้น้ำจะท่วมหนักและท่วมวงกว้างกว่าปีที่แล้วให้สู้กันโดยมีลีลาการมาของฝนคือ

1.พอเข้าฤดูฝนเป็นต้นมาฝนก็ตกวงกว้างและน้ำมากพอประมาณ

เมื่อดูตัวเลขถึง5สิงหาคม 2565สถิติน้ำในเขื่อนหลักของประเทศมีเพียงเก้าอ่างเก็บน้ำเท่านั้นที่น้ำน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่แม้จะน้อยก็ยังตีตื้นใกล้เคียงไม่ห่างกับปีที่แล้วไม่มากนัก

เขื่อนหลักภาคเหนือทั้งหมดทั้งแปดเขื่อนน้ำมากกว่าปีที่แล้วทุกอ่างรวมทั้งภูมิพล สิริกิติ์ และแควน้อยบำรุงแดน

แต่สถานการณ์ฝนตกที่ผ่านมานั้น ทางโหรเป็นเป็นเพียงหนังตัวอย่าง

2. ของจริงที่กำลังจะเริ่มคือ

2.1 มีเหตุปัจจัยให้ฝนเท-เริ่ม9สิงหาคมและ ทยอยตกไปเรื่อยถึงประมาณ17สิงหาคม2565 โดยเกณฑ์นี้แม้จะมีเดือดร้อนน้ำท่วมบ้างแต่จะได้น้ำเติมเขื่อนทางภาคเหนือมากขึ้น

2.2มีเหตุปัจจัยให้ฟ้ารั่ว-รอบแรกของปี-ประมาณระหว่าง5-10กันยายน 2565คาดหมายว่าเป้าหมายคืออีสานเป็นหลัก

2.3มีเหตุปัจจัยให้ฟ้ารั่วหนัก-ระหว่าง12ตุลาคม-17ตุลาคม 2565คาดหมายว่าเริ่มลงมาภาคกลาง

2.4มีเหตุปัจจัยให้ฟ้ารั่ว-อีกรอบ ประมาณ24ตุลาคม -สิ้นเดือน

2.5มีเหตุปัจจัยให้ฟ้ารั่วหนักประมาณ17พฤศจิกายน 2565 นำไปสู่ลางน้ำท่วมใหญ่-ดินถล่ม

โดยน้ำท่วมใหญ่จะเห็นชัดเจนในวงกว้างของเมืองเริ่มตั้งแต่ประมาณ25พฤศจิกายน2565เป็นต้นไป

2.6ครั้นตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2565เป็นต้นไป ถึงคิวน้ำท่วมภาคใต้

2.7เมืองมีจังหวะที่อาจจะเกิดความคับขันทางน้ำเริ่มประมาณ3ธันวาคม 2565เป็นต้นไป-สิ้นปี-ข้ามปี

หวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆรวมทั้งกรุงเทพฯมหานครจะเตรียมตัวให้พร้อม เพราะมุมดาวใกล้เคียงกันนี้เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่หลังตั้งเมืองรัตนโกสินทร์ได้สามปีคือปี2328 คราวนั้นมีการบันทึกไว้ว่าที่สนามหลวงน้ำสูงกว่าสี่เมตร(ยังไม่มีเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์และเขื่อนอื่นๆช่วยหน่วงน้ำ)

อีกทั้งเกณฑ์โหรใกล้เคียงกันนี้คุณธรรมนูญ เทียนเงิน ผู้ว่ากทม.เคยลาออกจากตำแหน่งเพราะน้ำท่วมมาแล้ว ด้วยไปทัวร์รัสเซียบอกว่าสบายดีขณะชาวบ้านที่กรุงเทพฯเดือดร้อนหนัก

อย่างไรก็ตามผู้เขียนเป็นเพียงโหรสมัครเล่น เชื่อนักก็ไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายละเอียดมีโอกาสผิดพลาดมากทั้งวันเดือนปีและทิศ แค่จำไว้ว่าน้ำใหญ่กำลังจะมาก็น่าจะพอ

และการฟังและใส่ใจคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นดีที่สุด เพราะที่นั่นคือองค์กรมืออาชีพ ใช้วิทยาศาสตร์ล้วนๆ สำคัญคือการบริหารจัดการน้ำน่าจะมีประสิทธิภาพ และไม่ร้ายแรงเท่าปี 2554

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan