วันที่ 10 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเคลื่อนไหวการลงมติร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นั้น
ในส่วนพรรคพลังประชารัฐได้มีโทรศัพท์ไปยังส.ส. ในช่วงเวลา 21.00น. วันที่ 9 ส.ค. กำชับให้ทุกคนมาร่วมประชุมรัฐสภา ในวันที่ 10ส.ค. เพื่อให้สามารถเปิดประชุมได้ และโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมที่ค้างอยู่ในวาระ2-3 อีก 5มาตรา เนื่องจากเป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศที่สำคัญ หากไม่ผ่านทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกันตั้งแต่ครม. ส.ส. และส.ว. จากนั้นขอให้ทุกคนออกจากห้องประชุม ไม่ต้องอยู่พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.

อย่างไรก็ตามในการประชุมร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ได้มีส.ส.รายหนึ่งเดินมาบอกส.ส.พลังประชารัฐที่ยังอยู่ในห้องประชุม ให้เดินออกจากห้องประชุม มิเช่นนั้นจะจดชื่อ ส่งต่อให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  แต่ปรากฏว่า ยังมีส.ส.พลังประชารัฐ 10กว่าคน นั่งอยู่เพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุมในการพิจารณาร่างกฎหมายลูก จนมีรายงานว่า มีโทรศัพท์จากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โทรศัพท์หาส.ส.พลังประชารัฐที่ยังนั่งอยู่ในห้องประชุมแบบเรียงตัว เพื่อให้ออกจากห้องประชุม  จนส.ส.หลายคนก็เดินออกจากห้องประชุม แต่ยังมีส.ส.3-4 คน ที่ยังขานชื่อเป็นองค์ประชุม อาทิ น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี นายจักรพันธ์ พรนิมิต ส.ส.กทม. น.ส.วทันยา บุนนาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนพรรคภูมิใจไทย ปรากฏว่า แกนนำพรรคและส.ส.ได้แสดงตนเป็นองค์ประชุมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค มาคุมด้วยตัวเอง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค มานั่งคุมสมาชิกในห้องประชุม ส่วนพรรคก้าวไกล มี ส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมพรัอมหน้า มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค นั่งคุมอยู่

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส.ส.พากันเดินออกจากห้องประชุม ไม่อยู่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม ยกเว้นนายการุณ โหสกุล และน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ที่ประกาศแสดงตนเป็นองค์ประชุมในครั้งนี้