วันที่ 10 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้เริ่มต้นพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ในมาตรา24/1  เรื่องวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 ตามที่กมธ.ไปแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับมติที่ประชุมรัฐสภาที่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีคำนวณจากการหาร 100 เป็นหาร 500

โดยนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การที่ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จากหาร100 เป็นหาร 500 เหมือนอยากเห็นพรรคส่วนเกิน พรรคเล็กพรรคน้อยเดินกันเป็นพรวน ขอชื่นชมคนเสนอญัตติเปลี่ยนเป็นวิธีหาร500 ชื่อวีๆ มาศๆ ที่มีส.ส.บัญชีรายชื่อคนเดียว ได้คะแนนมา3.5หมื่นคะแนน แต่กลับมามีบารมีในสภา ถ้าไม่มีเบื้องหลังการถ่ายทำ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นในรัฐสภา กล้าไปสาบานวัดพระแก้วหรือไม่ว่า ไม่มีกลุ่มคนมาแทรกแซงหรือต่อรอง

นายครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า วันนี้เรากำลังโดนครอบงำ ขอให้ช่วยกันสกัด เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปตามครรลอง ระหว่างนั้นนพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ได้ประท้วงที่ถูกพาดพิง โดยตอบโต้ว่า "น่าสงสารพรรคที่แพ้หาร500 เหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก"  นายพรเพชร ประธานในที่ประชุม ได้เตือนให้ถอนคำพูด จากนั้นนายครูมานิตย์และนพ.ระวีได้พูดตอบโต้กันไปมา จนนายพรเพชรต้องไกล่เกลี่ยให้ยุติ เพื่อเดินหน้าประชุมต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการอภิปรายมาตรา24/1 เสร็จสิ้น นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิกรัฐสภามาแสดงตน ใช้เวลาร่วม15นาที เพื่อรอสมาชิกเข้าห้องประชุม ผลการแสดงตนมีสมาชิกแสดงตน 367เสียง เกินกึ่งหนึ่งไปหวุดหวิดเพียง 3เสียง ถือว่ามีองค์ประชุมครบ แต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิคัดค้าน กลัวจะมีการเสียบบัตรแทนกัน ขอให้ใช้วิธีแสดงตนโดยการขานชื่อรายบุคคล มีผู้รับรองครบถ้วน

ขณะที่นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ คัดค้านเพราะการโหวตแสดงตนด้วยการเสียบบัตรผ่านไปแล้ว เกรงจะเตะถ่วงมากเกินไป ขอเสนอญัตติไม่ให้ใช้วิธีขานชื่อแสดงตน แต่นายพรเพชร ยืนยันให้มีการแสดงตนโดยการขานชื่อรายบุคคล จากนั้นจึงเริ่มการขานชื่อแสดงตนเป็นรายบุคคล ใช้เวลาไป1.30 ชั่วโมง หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาขานชื่อแสดงตนครบถ้วนแล้ว ปรากฏว่า มีส.ส.และส.ว.หลายคนที่ขานชื่อไม่ทันในการเรียกชื่อเป็นรายบุคคล มาขอขานชื่อแสดงตนเพิ่มเติมภายหลังเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความสับสน ต้องเติมชื่อเพิ่มกันวุ่นวาย รวมแล้วเสียเวลาไปร่วม 2ชั่วโมง ในการขานชื่อและนับผลแสดงตน ผลการนับองค์ประชุมมีผู้แสดงตน 403 คน ถือว่าครบองค์ประชุม นายพรเพชรจึงให้ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนว่า จะเห็นชอบกับมาตรา24/1หรือไม่ 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  อย่างไรก็ตามในช่วงการเสียบบัตรลงคะแนนจะเห็นด้วยกับมาตรา24/1หรือไม่ ก็ต้องเสียเวลาไปอีกร่วม 20นาที เพราะสมาชิกในห้องประชุมกลับมาเหลืออยู่น้อย โดยนายพรเพชรพยายามยื้อให้สมาชิกกลับมาเสียบบัตรลงคะแนนให้มากที่สุด จนนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่า ขอให้นายพรเพชร รีบเปิดเผยผลการลงคะแนนมาตรา 24/1

ในที่สุดนายพรเพชร แจ้งผลการลงคะแนนต่อที่ประชุมว่า องค์ประชุมไม่ครบขอปิดประชุม ในเวลา 16.17 น.  ทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายลูกค้างอยู่ในที่ประชุม มีแนวโน้มพิจารณาไม่เสร็จภายในกำหนด 180 วัน ในวันที่ 15ส.ค.นี้ เพราะขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพิ่มเติมแต่อย่างใด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปิดประชุม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ได้โพสต์เฟซบุ๊กทันทีว่า “สภาล่ม ขาด 22คน”