เมื่อวันที่ 5 ต.ค. เวลา 12.30 น. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกและรองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า ได้หารือและรับฟังการชี้แจงจากส่วนราชการต่างๆในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปประชุมที่สหรัฐอเมริกา และได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และได้รับความชื่นชมจากสหรัฐฯ ในการแก้ปัญหาเรื่องประมงผิดกฎหมาย(ไอยูยู)และปัญหาค้ามนุษย์ อีกทั้งมีความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหา และอยากให้ไทยเป็นตัวอย่างการแก้ปัญหาต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก ขณะเดียวกันสหรัฐฯ มีท่าทีชัดเจนพร้อมยกระดับความร่วมมือกับไทยในทิศทางที่ดีขึ้น พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมายว่า รัฐบาลต้องทำให้ครบวงจรและทำควบคู่กันไป โดยในที่ประชุมได้พูดถึงการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย โดยมอบหมายกรมจัดหางานทำแผนการตรวจแรงงานตามกรอบคำสั่งคสช.ที่ 100/2557 และ 101/2557 อีกทั้งการหาข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ที่แย่งอาชีพคนไทย ขณะที่ด้านความมั่นคงจะตรวจคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวดในพื้นที่ชายแดนซึ่งจะทำต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้เร่งแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวในปศุสัตว์ด้วย ส่วนเรื่องไอยูยู รัฐบาลได้แก้ปัญหาเต็มที่และมีความก้าวหน้าทั้งด้านกฎหมาย มีการกำหนดใบอนุญาตทำประมงน่านน้ำไทย การจดทะเบียนเรือขนถ่ายสัตว์น้ำต่างๆ การเฝ้าตรวจสอบว่าเรือประมงทำการประมงในพื้นที่ต้องห้ามหรือไม่ ซึ่งนำร่องแล้วในจ.สงขลา การเร่งรัดดำเนินคดี 108 คดีที่สิ้นสุดแล้วจาก 2 พันกว่าคดี เป็นต้น นอกจากนี้ไทยยังจัดเตรียมรายงาน 2 ฉบับในเรื่องไอยูยู เพื่อชี้แจงต่อองค์กรที่เกี่ยวข้องในปี 60 ด้วย ขณะที่ร.ต.หญิงพรชนก อ่ำพันธุ์ ทีมโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ไอเคโอ)ว่า จากที่พล.อ.ประวิตรเดินทางไปสหรัฐฯ ได้รับการชื่นชมในเรื่องดังกล่าวและทำให้ไทยสามารถยกระดับมาตรฐานการบินของไทยจากประเภท 2 ขึ้นมาอยู่ประเภท 1 ได้ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะทำให้ไทยเดินทางสายการบินของตัวเองไปยังสหรัฐฯ ได้แล้ว ขณะที่การเข้าร่วมประชุมสมัชชาองค์การการบินพลเรือนครั้งที่ 39 ที่ประเทศแคนนาดา ไทยได้รับการชื่นชมจากประธานการประชุมที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม มีการออกใบอนุญาตผู้ดำเนินการทางทางอากาศได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งไทยได้ร่วมหารือในระดับทวิภาคีจะมีการผ่อนปรนมาตรการความเข้มงวดในการเพิ่มระดับความเข้มข้นกับประเทศญี่ปุ่นทำให้สามารถปรับเปลี่ยนเที่ยวบินหรือใช้ประเทศญี่ปุ่นเป็นเส้นทางการบินเพื่อจะบินต่อไปยังประเทศสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆได้ ขณะเดียวกันในเดือนต.ค.นี้ การบินไทยสามารถนำเครื่องลงประเทศออสเตรเลียได้แล้ว