ลุงป้อม ปฏิเสธข่าว -ล็อบบี้สว.ล้มกม.ลูก "บิ๊กตู่"ปัดตอบอยู่ต่ออีก 2 ปี เรียก"วิษณุ"หารือนอกรอบ "บิ๊กป้อม" ยังไม่คิดนั่งนายกฯ บอกเป็นเรื่องอนาคต โบ้ยจับมือเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล มึนข่าวสั่ง "สว." ล้มกม.ลูก วิษณุระบุล็อบบี้ส.ส.ไม่ให้เข้าประชุม เป็นแค่เกมสภา ไม่ผิดจริยธรรม ปชป.พร้อมถกกม.ลูก ย้ำไม่ขอเล่นเกมทำสภาล่ม ด้านวัลลภตอบแทน ส.ว. ทุกคนพร้อมประชุม คาดกม.ลูกผ่านทัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีตั้งข้อสังเกตพรรคพลังประชารัฐชูพล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ว่า ไม่ใช่ ทุกอย่างอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไม่ครบ 8 ปีก็ไปต่อไป เมื่อครบแล้วก็ว่ากันว่าจะเอาใคร ไม่ใช่ตน ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมจะไปพร้อมได้อย่างไร ผมยังไม่ได้คิดเลย นายกฯ ยังอยู่ต่ออีก 2 ปี เมื่อถามว่า หมายถึงสมัยหน้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอกว่า อ้า ก็ว่าไป เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ไม่สะดุดประเด็น 8 ปี เลือกตั้งสมัยหน้าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องเสนอ
เมื่อถามว่า จะเสนอหัวหน้าพรรคพปชร. ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่สมาชิกเขาประชุมกัน เขาว่าอย่างไรก็ว่ากัน ไม่ใช่ตนคนเดียว เพราะพรรคคือพรรคไม่ใช่ตน ตนไม่ได้ตั้งพรรคนี้ขึ้นมา ทุกคนร่วมกันตั้งทุกคน เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไปยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องของการแจกเงินแจกทองให้พรรคเล็ก ในมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่มีๆ"
ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบข้อสักถามผู้สื่อข่าวกรณี พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุนายกฯ จะอยู่ต่ออีก 2 ปี โดย พล.อ.ประยุทธ์ ส่ายหัว และว่า ไม่มีคำตอบ ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวนายกฯ ภายหลังประชุมครม. ได้มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้เดินออกมาจากตึกสันติไมตรีพร้อมนายกฯ แล้วยืนร่วมฟังการแถลงข่าว ก่อนที่ทั้งหมดได้เดินขึ้นไปตึกไทยคู่ฟ้าพร้อมนายกฯ โดยนายชัยวุฒิและนายสุชาติลงมาก่อน เหลือเพียงนายวิษณุที่ยังอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า โดย นายวิษณุ กล่าวก่อนขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปกับนายกฯ ว่า ในที่ประชุมครม.วันนี้ ไม่ได้มีการคุยเรื่องวาระ8 ปีนายกฯ ส่วนที่รัฐสภาจะมีพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ในวันที่ 10 ส.ค.นั้น ก็ให้เป็นไปตามระเบียบวาระ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอีกครั้งถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐจะปล่อยให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรือในวันที่ 15 ส.ค. ว่า ตนจะไปยุ่งอะไรเป็นเรื่องของสมาชิกพรรคเขาว่ากันเองและในวันที่10 ส.ค. ส.ส.จะเข้าร่วมประชุม ตนจะไปสั่งเขาได้อย่างไร เขาจะเข้าหรือไม่เข้าตนจะไปรู้เหรอ ตนไม่รู้หรอก ไม่รู้จริงๆ ส่วนส.ว.ก็ขอให้เป็นเรื่องส.ว. จะไปสั่งอะไรเขาได้
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐจะล็อบบี้ส.ว.สายพล.อ .ประวิตร ให้ยื้อเวลาพิจารณากฎหมายลูกพล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ส.ว.ไม่มีสายใคร สายลุงป้อมที่ไหน ไม่มีสายลุงตู่ ลุงป้อม เพราะส.ว.มีคณะกรรมการสรรหาเข้ามาจะมีสายได้อย่างไร" เมื่อถามว่า มองความได้เปรียบเกี่ยวกติกาเลือกตั้งหาร 100 กับหาร 500 อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ อะไรก็ได้ทั้งนั้น ตนไม่คิดเพราะเอาส.ส.เขตเป็นหลัก เมื่อถามถึง กระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตรดีลกับพรรคนั้นพรรคนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ผมจะดีลกับใครผมไปต่างจังหวัดทุกวัน สื่อก็เห็น ผมจะดีลกับใคร ผมกลับบ้านก็นอน ตื่นเช้ามาก็ทำงาน ทำงานทั้งวัน จะไปดีลกับใคร ผมดีลกับใคร" เมื่อถามย้ำว่า มีกระแสข่าวว่าดีลกับพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร " โอ๊ย ไปที่ไหนไม่เจอใครเลย ยังไม่เจอให้เลยครับ นะครับเข้าใจด้วย สื่ออย่าคิดเอาเอง สื่อคิดเองทั้งนั้นข่าวทั้งหมด ออกจากผู้สื่อข่าวที่คิดเอง ที่คิดเอง เออเอง" ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเช่นนี้ในอนาคตไม่มีทางที่พลังประชารัฐจะจับมือกับเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนจะไปรู้ได้อย่างไร เรื่องของอนาคต อนาคตสื่อรู้หรือไม่ เมื่อถามย้ำว่า มีแนวโน้มเป็นไปหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้จริงๆ ใครจะไปรู้อนาคต ให้ผลเลือกตั้งออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หากมีสมาชิกจงใจให้สภาล่มจะผิดจริยธรรมหรือไม่ ว่า ก็เป็นเกมอันหนึ่งในทางสภาที่เคยใช้กันมาเสมอ เช่นวอล์คเอาท์ หรือการทำให้การประชุมไม่ครบ ซึ่งตนคิดว่ายังไม่ถึงขึ้นที่จะบอกว่าเป็นการผิดจริยธรรมเพราะมันเป็นอาวุธของสภาที่จะใช้ในการคัดค้านสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วย เหมือนกับเดินออก หรือนั่งอยู่แต่ไม่ยอมยกมือ เพราะฉะนั้นในเรื่องขององค์ประชุมคงจะถือว่าเป็นเรื่องจริยธรรมยาก แม้ว่าจะน่าตำหนิก็ตาม นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ส.ส.ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ เพราะการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติต้องมีความรับผิดชอบ ในสภามีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจะถูกใจใครทั้งหมดคงไม่ได้ แต่ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ไม่ว่าผลการพิจารณากฎหมายจะมีมติให้สูตรหารด้วย 100 หรือหาร 500 กระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลจากองค์กรอิสระก็จะรับหน้าที่ต่อไป หากไม่ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติให้เกิดความสมบูรณ์ย่อมเกิดความเสียหายต่อสถาบันนิติบัญญัติโดยรวม รัฐสภาทำหน้าที่ร่างกฎหมายไม่ใช่ใช้กลเกมจนทำให้รัฐสภาพิจารณากฎหมายไม่ได้
"ต่อไปหากมีการเสนอกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ก็เสนอกันตามอำเภอใจแล้วมาถ่วงเวลาให้เกิน 180 วัน เพื่อกลับไปใช้ร่างกฎหมายที่เสนอเข้ามาในวาระแรก หากคิดกันเช่นนั้นแล้วรัฐสภาจะมีความหมายอะไร ดังนั้นหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์กำชับ ส.ส. ให้ร่วมประชุมร่วมรัฐสภาตามปกติ และจะไม่เข้าไปร่วมกระบวนการที่จะทำให้องค์ประชุมล่ม ไม่กังวลว่าผลจะออกมาอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งทุกรูปแบบ" นายราเมศ กล่าว
ด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) 2 ฉบับ รัฐสภา กล่าวถึงองค์ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 10ส.ค. ว่า ยืนยันฝ่ายค้านไม่มีปัญหาในการลงชื่อเข้าร่วมประชุมตามปกติ ส่วนกรณีที่จะมีการทำให้องค์ประชุมล่มเพื่อให้การพิจารณาไม่ทัน 180 วัน และกลับไปใช้ร่างเดิมนั้น มองว่าฝ่ายค้านเป็นเสียงข้างน้อยคงไม่สามารถกำหนดอะไรได้ ต้องแล้วแต่เสียงส่วนใหญ่ว่าจะเอาอย่างไร แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยยังยืนยันจุดยืนเดิมมาโดยตลอดในการใช้สูตรหาร100 คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าทำตามนี้แต่แรกก็จบไปนานแล้ว ทั้งนี้ตนอยากให้ฝ่ายเสียงข้างมากในรัฐสภามีความชัดเจนและคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ส่วนกรณีที่หากเกินกรอบ 180 วันและสูตรหาร 500 จะตกไป เราคิดว่าเป็นช่องทางที่ดีที่สุดและช่องทางที่สะดวกที่สุดของฝ่ายเสียงข้างมากที่จะกลับมาหาร100 ทั้งนี้หากจะเดินหน้าหาร 500 พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีปัญหาแต่เท่าที่ฟังมาหลายพรรคของฝ่ายรัฐบาลบอกว่าอยากจะกลับมาในทิศทางที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข เรื่องนี้เดินไม่ถูกทิศมาบางส่วน ดังนั้นหากจะกลับมาถูกทิศก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่าไม่มีปัญหากับหาร 500 หมายความว่าเห็นด้วยแล้วใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เรายืนยันมาตลอดว่าหาร 500 ขัดหรือแย้งต่อกฎหมาย แต่ถ้าจะดันไปข้างหน้าก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเพราะเป็นเสียงข้างมาก แต่เราไม่เคยคิดหรือกลับไปกลับมา ยืนยันว่าหาร100ตลอด ส่วนฝ่ายรัฐบาลจะทำอย่างไรก็ไม่กล้าจะคาดเดา
เมื่อถามว่า ได้ประเมินว่ากฎหมายลูกจะผ่านในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า คาดเดายาก รอดูหน้างานเป็นหลัก และเมื่อถามว่าหากการประชุมล่มจะสามารถชี้แจงเหตุผลต่อประชาชนได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เรา "สำหรับพรรคเพื่อไทยหากสูตรหาร 500 ผ่านวาระสาม จะยื่นเรื่องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่งอาจจะเกิดได้ 2 กรณีคือ 1.การจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และ2. หน้าที่ของผู้แทนราษฎรคืออะไร โดยอีกส่วนหนึ่งเราเตรียมจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าขัดหรือแย้งต่อกฎหมายหรือไม่ แต่หากร่างกฎหมายลูกตกไปในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ หรือทำไม่เสร็จภายใน 180 วัน เราก็คงจะพับแผลนี้ไว้เพราะได้กลับมาที่ร่างเดิมแล้วและเป็นร่างที่พรรคเพื่อไทยรับ" นายสมคิด กล่าว เมื่อถามว่า การคำนวณหาจำนวนส.ส.ต้องนำเรื่อง ส.สพึงมีเข้ามาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า หากเป็นสูตรหาร100 ไม่มีการนำเรื่องส.ส.พึงมีเข้ามาเกี่ยว เจตนารมณ์การแก้บัตรเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ ชัดเจนว่าใครเลือกใคร เลือกเขตหรือเลือกพรรค แต่การบอกให้มีส.ส.พึงมีเป็นการใช้บัตรใบเดียว ซึ่งตอนนี้รัฐธรรมนูญแก้ไขเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้ว
ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า ยืนยันส.ว.ทุกคนพร้อมเข้าร่วมประชุม และอยู่ประชุมจนเลิกเกิน 200 คนจาก 250 คนแน่นอน ส่วนองค์ประชุมจะครบหรือไม่นั้น อยู่ที่ตัวแปรคือส.ส.500 คน ที่ต้องมาแค่ 1 ใน 3 ก็จะครบองค์ประชุมแล้ว เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีสายด่วนโทรศัพท์นัดแนะไม่ให้มีการมาเข้าร่วมประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ นายวัลลภ กล่าวว่า ไม่มี เป็นข่าวปล่อยทั้งนั้น ส.ว.ไม่ล่มแน่ ส.ว.เต็มที่ 200 กว่าอยู่แล้ว ส่วนคนที่ไม่ประชุมถือว่ามีความผิดหรือไม่นั้น โดยปกติมีหลักเกณฑ์คือการไม่มาประชุมจะต้องลาล่วงหน้า เมื่อขาดประชุมไปครั้งเดียว จะไปเอาผิดท่านก็กระไรอยู่ แต่ถ้าหลายครั้งก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ยืนยันว่าส.ว.มีความตระหนักตลอด ตัวเลขเราไม่เคยต่ำกว่าครึ่งหนึ่งเลย
สำหรับกระแสเรื่องการยื้อเวลากฎหมายลูกนั้น วุฒิสภาไม่เกี่ยวกับใคร เพราะวุฒิสภาไม่มีสิทธิ์ไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ต่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เรายังอยู่ในวาระการปฏิบัติหน้าที่อยู่ ไม่ได้เกี่ยวกับใคร ดังนั้นจะไม่เล่นเกมกับใครเด็ดขาด เราก็เดินไปตามภาระหน้าที่ของเรา ยืนยันแทนสมาชิกได้เลย ต่อข้อถามถึงความมั่นใจว่ากฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.จะผ่านภายในกรอบเวลา 180 วันหรือไม่นั้น นายวัลลภ กล่าวว่า ค่อนข้างเชื่อมั่นในการผ่าน ไม่ใช่สิ่งที่ยาก ไม่ต้องห่วงตรงนั้น กังวลเพียงว่า ขอให้ส.ส.จะมาครบหรือเปล่า ถ้าพรุ่งนี้เกิดอุบัติเหตุ ก็กลับไปสู่ร่างแรกที่เข้ามาใช้แทน นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ร่างพ.ร.ป.จะเดินหน้าไปได้อย่างไรหรือไม่ ต้องยอมรับความจริงว่าขณะนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ก่อนหน้านี้การไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมก็เป็นมาตรการหนึ่งที่สมาชิกทุกฝ่ายเคยใช้กันมา แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ยอมรับกันอย่างเปิดเผยว่าการไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมเป็นความจงใจและเป็นกลยุทธ์ในการต่อสู้ทางการเมือง
นายคำนูณ กล่าวว่า ตนเคารพการแสดงความเห็น แต่ตนเห็นต่างที่จะใช้วิธีดังกล่าวเพราะหากเห็นว่ากฎหมายไม่ถูกต้องยังมีกระบวนการหลังจากวาระ 3 อีก2แนวทาง คือ 1.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังจะต้องให้ความเห็นกลับมายังรัฐสภาซึ่งจะต้องตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง และกรณีที่กกต.เห็นต่างก็อาจจะโหวตไปตามการแก้ไขของกกต.ได้ และ2.ช่วงก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ยังสามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญซึ่งจะเห็นว่ามีขั้นตอนตามปกติที่บัญญัติไว้ถึง 2 ช่องทาง "จริงอยู่ที่ว่าหากไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน จะถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบกับร่างฉบับที่คณะรัฐมนตรีเสนอ แม้จะเป็นหนทางที่สั้นที่สุดและได้ผลและได้ผลดีที่สุด โดยไม่ต้องกริ่งเกรงอะไรทั้งสิ้น แต่เราควรจะต้องชั่งน้ำหนักเทียบกับความรู้สึกพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าหน้าที่พื้นฐานของสมาชิกรัฐสภาคือการเข้าร่วมประชุมพิจารณาร่างกฎหมาย และทำตามระเบียบวาระ" นายคำนูณ กล่าว