เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 9 ส.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมหารือนอกรอบภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้นว่า ไม่ได้พูดถึงประเด็นทางการเมือง สำหรับตนในฐานะที่ดูแลกระทรวงแรงงานคิดว่าค่าแรงอาจจะต้องมีการปรับขึ้น หลังจากค่าไฟอาจมีการปรับบางส่วน ซึ่งตนจะเชิญปลัดกระทรวงแรงงานมาหารือเพื่อเตรียมตรงนี้ 

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ดูเรื่องของนายจ้างว่าอยู่ในสัดส่วนรับได้หรือไม่ ซึ่งต้องหารือทั้งนายจ้างและลูกจ้างในรูปแบบไตรภาคี แต่นายจ้างก็เข้าใจว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ช่วยเหลือ ประคองไว้เยอะ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีที่ภาครัฐประคับประคองการเลิกจ้าง สำหรับตนการปรับค่าแรง 5-10 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นสัดส่วนที่พอรับได้ มีเหตุและผลที่จะอธิบายได้ 

เมื่อถามว่าหลังเลิกประชุมครม.แต่ละครั้งนายกรัฐมนตรีมักจะเชิญแกนนำพรรคร่วมเข้าพูดคุย ส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นอะไร นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นการทานข้าวร่วมกัน ไม่มีประเด็นอะไร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ร่วมอยู่ด้วย 

เมื่อถามว่าวันนี้มีนายวิษณุ เข้าร่วมด้วยมีข้อกฎหมายสำคัญอะไรหารือร่วมกันหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตรงส่วนนี้ตนไม่ค่อยเข้าไปรู้เรื่องมาก

เมื่อถามว่านายกฯได้แสดงความมั่นใจประเด็นวาระ 8 ปีให้ ครม.อย่างไรหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่มี ส่วนนี้อยู่กับคนที่ยื่น โดยฝ่ายผู้ที่มีอำนาจจะเป็นผู้ตัดสิน เราไปตัดสินแทนศาลไม่ได้

เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐออกมาระบุว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ได้อีก 2 ปี นายสุชาติ กล่าวว่า ตนคิดว่าอาจจะเป็นการพูดไปอะไรหรือเปล่า แต่ความจริงไม่มีใครรู้ได้ในส่วนนี้ ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนรอดูความชัดเจน จากผู้มีอำนาจในการตัดสินใจมากกว่า ในการพิจารณาเรื่องนี้

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐในฐานะที่ชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯไม่ได้มีข้อกังวลหรือหารือกันนอกรอบในเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เรายังมั่นใจ และตอนนี้เชื่อว่าต่างคนต่างตีความกฎหมายกันเอง แต่เรามั่นใจว่าเราไปต่อ และในพรรคพลังประชารัฐเองก็ชัดเจน โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคบอกแล้วว่าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอยู่แล้ว ความชัดเจนคือเสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯแต่ฝ่ายกฎหมายของแต่ละฝ่าย ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างมีฝ่ายกฎหมาย สุดท้ายอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือผู้มีภารกิจหน้าที่ตรงนี้ในการตัดสินมากกว่า ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนสบายใจ วันนี้เดินหน้าทำงานกันเหมือนเดิม

เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากการเป็นนายกฯในวันที่ 24 ส.ค.นี้ พรรคพลังประชารัฐได้เตรียมความพร้อมอย่างไร และพรรคพลังประชารัฐจะแตกหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนคงต้องมองว่ากฎหมายคงไม่ให้โทษขนาดนั้น แต่ตนก็ไม่ก้าวล่วง แต่เรามองทางกฎหมายและวิเคราะห์เอง ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่ว่าจะตัดสินเร็วขนาดนั้น ก็ต้องอยู่ที่คนยื่นและต้องมีเวลาในการพิจารณาอีกตนยอมรับว่าไม่เก่งเรื่องกฎหมาย แต่เรื่องการทำงานเราสามารถทำให้ทันกับสถานการณ์ได้ ยอมรับเรื่องกฎหมายเราไม่ได้เก่ง ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย 

เมื่อถามว่าแสดงว่านายกฯและครม.ไม่ได้กังวลกับประเด็น 8 ปี นายสุชาติ กล่าวว่า โดยส่วนตัวดูแล้วไม่ได้มีประเด็นเรื่องนี้น่ากังวล เพราะเราเชื่อมั่น เรามีฝ่ายกฎหมาย และวันนี้นายกฯตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้ประชาชนอย่างที่นายกฯได้ให้สัมภาษณ์ไป