สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าตรวจค้น “มาร์-อา-ลาโก” บ้านพักสถานตากอากาศ หรือรีสอร์ต ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา สหัรฐฯ เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น เพื่อค้นหาเอกสารซึ่งเป็น “บันทึกประธานาธิบดี” และ “เอกสารลับ” ต่างๆ ที่หายไปจากทำเนียบขาว ที่ทางหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า บรรดาเอกสารเหล่านั้น ถูกโยกย้ายมาเก็บไว้ที่รีสอร์ตดังกล่าว และอาจถูกอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ทำลายเอกสารเหล่านั้นภายในรีสอร์ตแห่งนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รวบรวมและคัดแยกเอกสารของประธานาธิบดี เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เอกสารบันทึกจากทำเนียบขาว จำนวน 15 กล่อง ถูกขนย้ายไว้ที่รีสอร์ต “มาร์-อา-ลาโก” ซึ่งเอกสารบางชิ้นยังเป็นเอกสารลับที่มีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงของชาติด้วย เคยถูกนำมาคืน หลังจากได้มีการเจรจากับทางทนายความของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์

ขณะที่ ปฏิกริยาจาอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกแถลงการณ์ประณามต่อการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ โดยระบุว่า ถือเป็นยุคมืดของสหรัฐฯ ที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอกลุ่มใหญ่ ปิดล้อม และบุกเข้าไปในบ้านพักที่สวยงามของตน โดยพวกเขายังรื้อค้นไปถึงตู้เซฟของตนด้วย ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของประเทศ

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ประชาชนจำนวนหนึ่งที่เป็นฝ่ายสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกมาประท้วงต่อเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่บริเวณหน้ารีสอร์ต “มาร์-อา-ลาโก”

รายงานข่าวเผยว่า การบุกเข้าตรวจค้นรีสอร์ตของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ยกระดับการใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อพุ่งเป้าเอาผิดกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์จากกรณีต่างๆ รวมถึงกรณีที่กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 (พ.ศ. 2564) เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วย