วันที่ 6 ส.ค.65 จากกรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ “เมาท์เทนบี”  ในช่วงเวลา 01.00 ของวันที่ 5 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ริมถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะที่มีนักท่องเที่ยวราตรีกำลังใช้บริการ 100 กว่าชีวิต โดยต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วบริเวณ เนื่องจากวหลังคามีการฉีดพ่นโฟม สำหรับซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายอากาศและทางออกด้านหน้าเปิดอยู่เพียงประตูเดียว ด้วยมีการคัดกรองนักเที่ยวตามมาตรการโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ทัน อีกทั้งยังมีกลุ่มควันไฟอย่างรุน แรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ในที่เกิดเหตุ และ โรงพยาบาล อีก 1 ราย ร่วมเป็น 14 ราย ที่เสียชีวิต โดยมีผู้บาดเจ็บ 38 ราย

ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพิ่มเติม นายธนกฤต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี โดยเสียชีวิตที่ รพ.ระยอง ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุกาณ์นี้รวมเป็น 15 ราย บาดเจ็บ 37 ราย

โดย น.ส.นิตยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุพี่ชายได้เดินทางไปจัดงานวันเกิดที่ผับพร้อมกลุ่มเพื่อนรวมสิบกว่าคน โดยจองโต๊ะบริเวณหน้าเวที จึงทำให้ขณะเกิดเหตุซึ่งแม้จะออกมาภายนอกได้แต่ก็บาดเจ็บสาหัสและมาเสียชีวิตในวันนี้ ขณะที่กลุ่มเพื่อนของพี่ชายพบว่า เสียชีวิตแล้ว 2 ราย คือ นายสุรกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี และนายสุเทพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ขณะที่เหลือส่วนใหญ่บาดเจ็บสาหัส

น.ส.นิตยา บอกเพิ่มเติมว่าวานนี้ ได้เดินทางไปแจ้งทางศูนย์ฯ ซึ่งได้รับแจ้งเพียงให้รอเรียกมาสอบสวนเท่านั้น ขณะที่ทางเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารทางร้านยังไม่ได้ติดต่อมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าสร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ด้วยผู้ตายมีภรรยาซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นี้ และบุตรที่ยังอยู่ในวัยเรียนเป็นหญิงอีก 2 คน คนแรกเรียนอยู่เทคนิค อีกคนเรียนมัธยมปีที่ 1 ทั้งนี้อยากให้ทางร้านหรือหน่วยงานต่างๆ ประสานความช่วยเหลือ เป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมวันเกิดเหตุทางร้านถึงยังไม่ปิดทำการ เพราะทราบว่าพี่ชายและเพื่อนเข้าไปฉลองกันในผับเวลา 01.00 น.ก่อนจะเกิดเหตุเมื่อเวลาผ่านไปแค่ 20 นาที

ขณะที่ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น พบว่าตลอดถึงช่วงเช้าวันนี้ที่ สภ.พลูตาหลวง มีการเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งผู้บาดเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์ และพนักงานของร้าน ทั้งนี้เพื่อรวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้บริหารหรือผู้ที่รับผิดชอบต่อไป