ครอบครัวเหยื่อเหตุเพลิงไหม้ภายในผับเม้าท์เท่น บี จ.ชลบุรี ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 ศพ แบ่งเป็นชาย 9 ศพ และ หญิง 4 ศพ ทยอยเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อติดต่อขอรับศพของผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนา หลังวานนี้ได้ส่งทั้ง 13 ศพมาชันสูตรพลิกศพ และผ่าพิสูจน์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคล โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาติดต่อทำเรื่องเพื่อขอรับศพของผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ครอบครัว

นางอารีย์ มีชำนาญ แม่​ของนาย​ณฐกร​ มีชำนาญ​ อายุ 49 ปี พนักงานคุมเครื่องเสียง เปิดเผยว่า ทั้งนี้คิดว่าใช่ลูกชาย โดยได้บอกว่าลักษณะเป็นอย่างไร มีรอยสักยันต์อะไรหรือไม่ ซึ่งตนบอกไปว่าไม่มี พร้อมได้บอกชื่อ-นามสกุล อายุ และส่วนสูง ตอนเกิดเหตุกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่ หลังทราบเรื่องก็เข่าอ่อน ช็อคตั้งแต่วานนี้ จึงโทรศัพท์ให้หลานออกไปรับ ก็คิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นทำไมต้องเกิดขึ้นกับลูกเราทั้งที่ไปทำงานได้แต่พยายามที่จะปลง คนเราถึงเวลาก็ต้องไป และวันนี้เป็นวันเกิดเขาด้วย เขาก็คงจะหมดอายุของเขาแล้ว เราปลงแล้วแต่ก็นอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งนี้ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่มีลางบอกเหตุอะไร โดยในคืนที่เกิดเหตุตนหลับสนิทและฝันว่าตนไปไหนไม่รู้กลับบ้านไม่ถูกและไปเจอเขา เลยจับมือเขาไปพร้อมเรียกว่านาย และตนบอกไปว่าจะพากลับบ้าน พยายามหาทางกลับแต่ก็หาไม่เจอ ไปเจอวัด เจออะไรไปเรื่อย ก่อนจะรู้สึกตัวในเวลา 06.30 น.

ด้านน.ส.ปาลิตา มีชำนาญ ลูกสาวของนาย​ณฐกร​ เปิดเผยว่า เมื่อทราบเรื่องก็ช็อคไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะต้องทำอย่างไร ทราบว่าพ่อเสียชีวิตเพราะมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งตามเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ที่ตัวและเห็นรายชื่อจากข่าว พ่อพึ่งไปทำงานที่ดังกล่าวได้ไม่กี่วัน ทางร้านจึงรู้แค่ชื่อเล่นและมาจากไหน แต่อาจไม่ทราบว่าญาติอยู่ที่ไหน โดยพ่อทำงานเป็นซาวด์เอ็นจิเนีย เมื่อคืนมีพนักงานของร้านติดต่อมาว่าจะช่วยเหลือแต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง โดยขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการดำเนินการจัดการเรื่องศพ ทั้งนี้จะนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหนองปลาไหล จ.นครปฐม 

ขณะที่ร้อยตรีสุพรรณ หินเธาว์ พ่อของ จ่าเอกสมรัฐ หินเธาว์ อายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตจากการสำลักควัน เปิดเผยว่า กล่าวว่า ตนเองทราบข่าวตอนเวลา 06.00 น. มีคนโทรมาบอกให้พ่อทำใจ และส่งรูปให้ดูพบศพลูกชายตัวเองบริเวณหน้าห้องน้ำในผับที่เกิดเหตุดังกล่าว เมื่อวานที่ผ่านมา ลูกชายอยู่ตัวคนเดียวทำงานเป็นทหารเรือ ก่อนตายลูกโทรมาให้ช่วยเรื่องทำใบขับขี่ให้และจะกลับมาหาแต่มาเสียชีวิตก่อน ส่วนกรณีการช่วยเหลือนั้นขณะนี้ได้แจ้งความที่ สภ.พลูตาหลวง และไปที่อบต.พลูตาหลวง เพื่อทำเรื่องเกี่ยวกับการเสียชีวิต รู้จากข่าวว่ามีคนจะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการช่วยเหลือมาแต่อย่างใด โดยจะไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋)