มาแล้วตามคำเรียกร้อง!!! “คนละครึ่งเฟส5” ที่รัฐบาล “ลุงตู่” ไฟเขียวให้กระทรวงการคลังคลอดมาดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อขอรับสิทธิ 800 บาท ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 เพื่อเริ่มใช้จ่ายในวันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2565

แม้จะมองเป็นการสร้างกระแสนิยม หลังจากผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งสุดท้าย ก่อนให้มีการจัดเลือกตั้งทั่วประเทศที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

สำหรับมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้โควิด-19 ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 อนุมัติวงเงิน 27,427 ล้านบาท ลุย 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ได้รับสิทธิ 26.5 ล้านคน จะได้รับสิทธิประโยชน์โดยภาครัฐช่วยจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนด อัตรา 50% ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน รวมไม่เกิน 800 บาท ต่อคน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-31 ต.ค. 2565 ใช้เงินทั้งสิ้น 21,200 ล้านบาท 2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 จำนวนไม่เกิน 13.34 ล้านคน โดยช่วยเหลือ 200 บาทต่อคน ระยะเวลา 2 เดือน รวม 400 บาทต่อคน ใช้เงินทั้งสิ้น 5,336 ล้านบาท

โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ระยะ ที่ 3 จำนวนไม่เกิน 2.22 ล้านคน ช่วยเหลือ 200 บาทต่อคน ระยะเวลา 2 เดือน รวม 400 บาทต่อคน ใช้เงินทั้งสิ้น 890 ล้านบาท

ดังนั้นการที่รัฐบาลตัดสินใจให้มีโครงการ “คนละครึ่งเฟส 5” นั้น ณ เวลานี้ ถือว่าเป็นการสร้างความพอใจให้กับประชาชนได้อย่างมาก แม้ว่ารัฐบาลจะบอกว่าตอนนี้เศรษฐกิจไทยกำลังพื้นตัวดีขึ้น แต่ก็ยังมีประชาชนอีกไม่น้อยเดือดร้อนจากรายได้ที่หดหาย บางคนก็ถูกเลิกจ้าง ดังนั้นเงินจาก “คนละครึ่งเฟส 5” น่าจะทำให้มีเงินหล่อเลี้ยงตัวเองได้

ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องอย่าง “นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง เ ปิดเผยถึงโครงการคนละครึ่งเฟส 5ว่า วงเงินคนละ 800 บาท ถือว่าเหมาะสม ที่รัฐบาลจะช่วยเหลือแล้ว เพราะขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ระหว่างการฟื้นตัว กำลังซื้อกำลังกลับมา ดังนั้นความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะต้องลดลง แม้ค่าครองชีพสูงขึ้นจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าที่สูงขึ้น แต่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม และก๊าซธรรมชาติเหลว (เอ็นจีวี) อีกทั้งกระทรวงพลังงาน และกระทรวงพาณิชย์ได้เข้ามาดูแลราคาพลังงานและราคาสินค้าแล้ว

และในมุมมองของนักวิชาการ “นายธนวรรธน์ พลวิชัย” อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ บอกว่า “คนละครึ่งเฟส 5” ให้สิทธิ์ คนละ 800 บาท แม้จะเป็นวงเงินที่ไม่มากแต่จะเป็นวงเงินที่จะช่วยเพิ่มอำนาจซื้อให้กับประชาชน สามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ให้เติบโตขึ้นอีกร้อยละ 0.2-0.4 ทำให้มีแรงส่งต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้จากช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไฮซีซั่น จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประกาศโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ของรัฐบาลนั้นต้องขอบคุณที่ห่วงใยความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะภาวะค่าครองชีพที่สูงในปัจจุบัน ซึ่งกระทบกับการใช้จ่ายของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยโครงการนี้จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันร้านค้าหรือผู้ประกอบการ SMEs ก็จะได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้ด้วย ทำให้เกิดการซื้อขายและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

เช่นเดียวกับประชาชนที่ขานรับ “คนละครึ่งเฟส5” เช่น คุณอารียา นุกูล เจ้าของร้าน รุสกี สตรอว์เบอร์รี่โยเกิรต์ บอกว่า ประชาชนให้ความสนใจ รอวันที่เมื่อไหร่จะมีโครงการคนละครึ่งอย่างนี้เข้ามาอีก ที่ผ่านมาจะเงียบๆไปนิด แต่พอประชาชนรู้ว่ารัฐบาลจะมีโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เข้ามา ลูกค้าก็แตกตื่น ดีใจ แม่ค้าก็ดีใจไปด้วย ลูกค้าได้มีเงินมาจับจ่ายครึกครื้นขึ้น เป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยทำให้แม่ค้ามีรายได้เพิ่ม

และนางสุภาพ อายุ 52 ปี เจ้าของร้านขนมจีน “ยายเป้า กระเด้าหม้อ” ร้านขนมจีนชื่อดังแห่งเมืองโคราช กล่าวว่า ในช่วงที่มีโครงการคนละครึ่งนั้น ร้านของตนเองก็เข้าร่วมโครงการทุกครั้ง เพราะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้เป็นอย่างมาก แต่เมื่อโครงการคนละครึ่งหมด ก็ทำให้ลูกค้าหายไปประมาณ 50% ดังนั้นจึงหวังว่าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่นี้จะช่วยเพิ่มลูกค้าให้กับทางร้านได้เหมือนเช่นเคย

สำหรับกำหนดเกณฑ์การให้เงินช่วยเหลือให้เงินไม่เกินคนละ 800 บาท ซึ่งมีเงื่อนไขสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 150 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ

โดยประชาชนที่เคยร่วม “คนละครึ่งเฟส 4” และผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน สามารถกด ยืนยันสิทธิคนละครึ่ง และลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่านทางแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อขอรับสิทธิ 800 บาท ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และจะสามารถเริ่มใช้จ่ายในวันที่ 1 ก.ย.-31ต.ค. 2565 โดยผู้ที่ได้รับสิทธิแล้วนั้น จะต้องมีการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้โครงการคนละครึ่ง ครั้งแรกผ่าน แอปฯเป๋าตัง ภายในวันที่ 14 ก.ย. 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5

อย่างไรก็ตามผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 แต่ยังไม่เคยทำการสมัครลงทะเบียนในครั้งไหนๆเลย ใช่ว่าจะทำการสมัครได้ทุกคน เพราะมีการระบุเงื่อนไขคุณสมบัติชัดเจนว่าคนกลุ่มไหนมีสิทธิรับเงิน 800 บาท ในโครงการคนละครึ่งเฟส 5 นี้ ซึ่งมีดังนี้

คุณสมบัติการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 5

- ประชาชนที่มีสัญชาติไทย

- มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน

- มีบัตรประจำตัวประชาชน

- ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2565 และไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3

- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ-โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ-โครงการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19

เชื่อว่า “คนละครึ่งเฟส5” ครั้งนี้ จะเป็นไม้ตายสุดท้ายของรัฐบาลลุงตู่ที่จะเรียกศรัทธาคืนมา!!!