เริ่มต้นเดือนสิงหาคม ก็เหมือนเป็นสัญญาณ เตือนให้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำใจ และเตรียมตัว ตั้งรับ กับปมร้อนๆที่ว่าด้วย นายกฯ8ปี จะมาเยือนเหมือนมาตามนัด !
เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 31 ก.ค.65 ร่วมกับคณะผู้ร่วมลงชื่อ 99 คน เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากแหน่งนายกฯ เนื่องจากครบกำหนด 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ 2560
ในคำแถลงการณ์ อ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ มาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2557 ดังนั้นจะครบกำหนด 8 ปีตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในวันที่ 24 ส.ค.65 นี้
จากนั้นในวันเดียวกัน ปรากฏว่ามีแรงกดดันเพิ่มขึ้นอีกด้านหนึ่งเมื่อคนของพรรคเศรษฐกิจไทย โดดลงมาร่วมออกแอคชั่น อีกราย
โดย วิชิต ปลั่งศรีสกุล รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยและทีมกฎหมายพรรค ชี้ว่า วาระ 8 ปี ในการทำหน้าที่นายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ จะครบสองสมัยเป็นเวลา8ปี ในวันที่ 23 ส.ค.2565 ดังนั้น ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ทันทีไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 23 ส.ค.65 นี้
เท่ากับว่า เวลานี้ ภาพเบื้องหน้า สำหรับบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ คือการเผชิญหน้ากับแรงกดดัน ที่จะนำไปสู่การร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ ไปต่อ หรือไม่ เพราะนี่คือ ความหวังสุดท้าย สำหรับ ฝ่ายตรงข้าม
เพราะหากบนเวทีการเมือง ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคู่แข่ง เท่ากับว่า โอกาสที่จะชนะหรือ ขึ้น เทียบพิกัด ยิ่งมีความเป็นไปได้สูง !
เพราะแม้พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกโจมตีอย่างหนัก หรือคะแนนนิยมจะเริ่มตกลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ย่อมไมได้หมายความว่า นี่จะเป็น โอกาส ที่เปิดมากพอสำหรับ คู่แข่งฝั่งตรงข้ามได้มากพอ นอกจากฝั่งพรรคพลังประชารัฐและ 3ป. จะไม่สามารถชูพล.อ.ประยุทธ์ ได้อีกเท่านั้น ด้วยเพราะเงื่อนปม นายกฯ8ปี !