แม้ว่าตลาดเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ ของไทยในปี 2559 อาจชะลอตัวจากปี 2558 เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น กระทบต่อความกังวลของผู้บริโภคและแรงซื้อ ไปจนถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสะสมอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคอาจยังระมัดระวังการใช้จ่าย ที่ส่งผลต่อเนื่องมาถึงการชะลอซื้อเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งเรื่องของการขยายตัวในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัว ก็มีผลกระทบด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามภาวะอากาศที่ร้อนรุนแรง ในช่วงต้นปี กลับกระตุ้นให้มีการซื้อเครื่องแอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้จากยอดขายของแต่ละบริษัทในช่วงฤดูร้อน ซึ่งผู้ประกอบการจำหน่ายแอร์ต่างก็ใช้กลยุทธ์ เพื่อหวังเพิ่มยอดขายและรักษาส่วนแบ่งการตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงระดับบนที่ยังมีกำลังซื้ออยู่พอสมควร ไม่เพียงแต่การใช้กลยุทธ์เรื่องของราคา หรือแคมเปญที่น่าสนใจเท่านั้น ผู้ประกอบการก็ต้องเน้นในเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มเติมจากระบบอินเวอร์เตอร์ด้วย “บริษัท กรี อิเลคทริค (ประเทศไทย) จำกัด” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ “กรี” ที่ผลิตจากประเทศจีน มาจำหน่ายในประเทศไทย ที่ถือว่าเป็นแอร์น้องใหม่ แม้จะนำเข้ามาทำตลาดเพียง 5-6 ปี แต่ก็เริ่มเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะในบรรดาช่างแอร์ ตัวแทนจำหน่าย ที่บอกเล่ากันปากต่อปากถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพ ไม่ด้อยไปกว่าแอร์แบรนด์ดังๆ ที่มีอยูในท้องตลาด “ชัยนิวัฒน์ คงศิลป์” ผู้จัดการทั่วไป กรี อิเลคทริค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กรีพร้อมเดินหน้าทำการตลาดแอร์กรี รวมไปถึงการวางแผนประชาสัมพันธ์แผนการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ อย่างจริงจัง หลังจากทำตลาดแบบเงียบๆ มาในช่วงต้น แต่พอแอร์กรีเริ่มเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคที่ได้ซื้อไปติดตั้ง จนยอดขายโดยเฉพาะในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีอัตราก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแอร์กรีมีจุดเด่นตรงเรื่องของนวัตกรรมระดับสูง ที่ทางบริษัทแม่ในประเทศจีนให้ความสำคัญอย่างมาก และเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ ซึ่งจะทำให้แอร์กรีมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ประหยัดพลังงาน มีระบบช่วยดูแล ปกป้องด้านสุขภาพ การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และระบบอิเลคทรอนิกส์ที่เฉลียวฉลาด การออกแบบที่สวยงาม รวมไปถึงการตั้งราคาขายที่เหมาะสม ตลอดจนการบำรุงรักษาต่ำ การบริการหลังขาย ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม ล่าสุดได้นำนวัตกรรมที่เน้นการประหยัดพลังงานและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อาทิเช่น Photovoltaic Direct-driven GMV, GMV5,Home GMV,Heat Pump, Photovoltaic Direct-driven Inverter Centrifu/galChillerและสินค้าอื่นๆ เข้ามาทำตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ขยายตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม บ้าน คอนโดมีเนียม และอาคารสำนักงานที่ต้องการรีโนเวต ที่มุ่งเน้นในการประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และรักษาสิ่งแวดล้อม “บริษัทมั่นใจว่าหลังจากมีการทำตลาด มีการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง จะทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และนวัตกรรมที่ดี คุณภาพสูง ในราคาที่เหมาะสม ยิ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในแอร์กรีเป็นตัวเลือกหนึ่งก่อนการตัดสินใจซื้อแอร์ใหม่ พร้อมกับการสนับสนุนจากทางบริษัทแม่จากเมืองจีนอย่างเต็มที่ ก็จะยิ่งทำให้โอกาสในการเจาะตลาดแอร์เมืองไทยเพิ่มมากขึ้นไปด้วย พร้อมกับการขยายตัวของยอดขาย” ผจก.ทั่วไป แอร์กรี กล่าวอีกว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 59 บริษัทมียอดขายไปแล้ว 350 ล้านบาท คาดทั้งปีจะขายได้ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20 หลังจากการปรับกลยุทธ์ดำเนินการที่เหมาะสม โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดแอร์บ้านจากร้อยละ 1.5 เมื่อปี 58 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2 ทางด้าน Mr. William Zhao, Oversea Sales Manager-Asia Pacific Gree Electric Appliance Inc. of Zhuhai กล่าวว่า บริษัทกรีจากประเทศจีนพร้อมให้การสนับสนุนการทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายสำคัญในการที่จะขยายตลาดในภูมิภาคนี้ ที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก โดยแอร์ “กรี” มั่นใจว่าจะกลายเป็นแบรนด์ที่สามารถได้รับความนิยมและติดอันดับท๊อปไฟว์ในประเทศไทยได้ในไม่ช้า ด้วยการใช้นวัตกรรมที่ “กรี” ให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 ในการผลิตสินค้า เห็นได้จาก “กรี” มีศูนย์วิจัยและพัฒนาถึง 52 แห่ง มีห้องแล็บมากถึง 570 ห้อง มีนักวิจัยและพัฒนามากถึง 8,000 คน มีจำนวนสิทธิบัตรมากกว่า 14,000 ประเภท ซึ่งเป็นสิทธิบัตรด้านเครื่องประดิษฐ์มากถึง 5,000 ประเภท แล้วในแต่ละปีบริษัทจะตั้งงบเพื่อการวิจัยและพัฒนาถึงร้อยละ 5 ของยอดขายโดยล่าสุดเมื่อปี 2556 บริษัทมียอดขายทั่วโลกมากกว่า 7 แสนล้านบาท ปัจจุบัน “กรี”ในประเทศจีนถือว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครองตลาดแอร์ใหญ่อันดับ 1 ในประเทศจีน มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 44 มีสัดส่วนตลาดแอร์ทั่วโลกประมาณร้อยละ 25 จากจำนวนแอร์ทั่วโลกที่มีประมาณ 110.5 ล้านเครื่อง โดยผลิตในจีนถึงร้อยละ 85 ซึ่ง “กรี” นอกจากจะผลิตสินค้าแบรนด์ตัวเองแล้ว ยังรับสั่งผลิตให้กับแบรนด์อื่นด้วย