เมื่อเวลา 11.00  น. วันที่ 1 ก.ค. 2565 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายฟรองซัวส์ กอร์แบง(François Corbin) รองประธานสภานายจ้างฝรั่งเศสในต่างประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และ รมว.กลาโหม ในโอกาสเยือนประเทศไทย 

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต้อนรับว่า ยินดีที่ทราบว่าไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่คณะได้เดินทางมาเยือนในครั้งนี้พร้อมขอขอบคุณ และยินดีที่ได้พบกับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ขอชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและฝรั่งเศส  รวมทั้งยินดีที่ได้พบกับนักธุรกิจสภานายจ้างฝรั่งเศสในต่างประเทศอีกครั้ง หลังเคยพบกันมาแล้วเมื่อปี 2562 ซึ่งประกอบด้วย ภาคธุรกิจหลายภาคส่วน ทั้งด้านวิศวกรรมก่อสร้าง ยานยนต์ คมนาคมขนส่ง การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการบริหารจัดการพลังงาน ซึ่งไทยได้ให้ความสำคัญการเยือนของคณะในวันนี้ และหวังว่าจะนำไปสู่ความยกระดับยุทธศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันภายในปี 2567  ซึ่งหลายคนที่เคยเดินทางมาประเทศไทยแล้ว ก็คงจะได้เห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ส่วนผู้ที่เดินทางมาเยือนเป็นครั้งแรก เชื่อมั่นว่าจะได้เห็นศักยภาพและโอกาสความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงการ EEC ซึ่งได้ทราบว่า ได้มีการพบปะพูดคุยกับเลขาฯ EEC มาแล้ว และขอแสดงความยินดีกับฝรั่งเศสที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ดึงดูดการลงทุนโดยตรงเป็นอันดับที่ 1 ในภูมิภาคยุโรปประจำปี 2564 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3

ต่อมาเวลา 12.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายฟรองซัวส์ เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า ถือเป็นอีกวาระที่สำคัญของนายกฯที่ได้พบปะหารือกับนายฟรองซัวส์ ซึ่งมีสภาชิกหลายพันบริษัท และเป็นผู้แทนพิเศษด้านการพัฒนาความสัมพันธ์เศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคของรัฐมนตรีว่าการกิจการยุโรปและการต่างประเทศ โดยได้หารือในหลายมิติด้วยกัน โดยเฉพาะความร่วมมือในระยะต่อไป และทบทวนในความร่วมมือในช่วงที่ผ่านมา และวันนี้มีข้อตกลงเพิ่มขึ้นมากมาย เราต่างคนต่างต้องปรับเข้าหากัน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีฝรั่งเศสให้ความสำคัญ เยี่ยมเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการเยี่ยมเยือนเรื่องการค้าการลงทุน เพื่อพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ไปสู่อนาคต เป็นเรื่องที่น่ายินดี ขอให้ทุกคนมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ และเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามในประเด็นการเมืองแต่อย่างใด