วันที่ 1 ก.ค.65  ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการกำหนดแผนระยะสั้น หลังจากนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้เตรียมการรับมือเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานและอาหารว่า เรื่องนี้จะนำเสนอในที่ประชุมสมช.ในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค.นี้ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ซึ่งจะมีการเชิญหน่วยงานในสภาความมั่นคงแห่งชาติทั้งหมด รวมทั้งรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดมาหารือ ซึ่งที่ผ่านมาสมช.ได้เรียกหน่วยงานมาประชุม 2 ครั้ง และเชิญภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงานมาพูดคุย รับฟังปัญหาและให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งอาจต้องมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงเสาร์ อาทิตย์นี้และนำข้อมูลมาเสนอต่อที่ประชุมในวันจันทร์ที่นายกฯจะเป็นประธาน

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สิ่งที่เราจะเสนอคือการประเมินสถานการณ์ กำหนดแผนการเตรียมความพร้อมในอนาคตแต่ก็จะมีการเตรียมความพร้อมในการแก้ปัญหาเร่งด่วนด้วยโดยเฉพาะปัญหาเรื่องพลังงาน ที่ไปกระทบกับเรื่องโลจิสติกหรือการขนส่งเป็นหลัก กระทบเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้ราคาทุกอย่างสูงขึ้น

“เรื่องนี้แม้สมช.จะไม่เชี่ยวชาญ แต่ขอเรียนว่าเราไม่ได้ทำงานคนเดียว สิ่งที่ผมทำเรื่องแรกก็คือได้พบกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจทุกกระทรวงเพื่อขอความเห็นและรับทราบปัญหา และเชิญหน่วยงานเหล่านั้นมาพูดคุย โดยในการประชุมวันจันทร์นี้ทางสมช.จะเสนอความคิดเห็นและแผนที่จะรองรับ ซึ่งอาจจะยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นแผนต่างๆ อยากให้รอฟังหลังการประชุมในวันจันทร์” พล.อ.สุพจน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าแผนที่ออกมาจะครอบคลุมปัญหาไฟฟ้า พลังงาน และอื่นๆ ทั้งหมดหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ครอบคลุมทั้งหมด ทั้งพลังงาน อาหาร สินค้า เป้าหมายเป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องพิจารณาเป็นการเร่งด่วน เพราะดูแล้วภาคเศรษฐกิจได้รับผลกระทบเรื่องพลังงานมาเป็นอันดับหนึ่งและส่งผลกระทบถึงราคาสินค้าทั้งหมด กระทบชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ส่วนการลดราคาสินค้า ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว  สำหรับเรื่องอื่นๆ ก็จะดำเนินการในภาพรวมและกำหนดแผนเป็นห้วงเวลา โดยจะนำเสนอนายกฯเพื่อรับทราบและเสนอแผน ซึ่งเราประเมินสถานการณ์แล้วว่าจะกระทบตามห้วงเวลา 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ข้างหน้าอย่างไร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเตรียมการรองรับ

เมื่อถามว่าแผนระยะเร่งด่วนจะใช้เวลากี่เดือน พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เราเชื่อว่า ภายใน 3 เดือนจะมีผลกระทบแน่ ซึ่งก็ต้องดูว่าจะมีมาตรการอะไรที่จะบรรจุอยู่ในห้วงเวลานี้บ้าง ดังนั้นเราจึงต้องเร่งแก้ไข แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราคาสินค้ามีการแก้ปัญหากันทุกวันอยู่แล้ว และจะมีระยะ 6 เดือน รวมถึงในปี 66 ตลอดทั้งปีด้วย

เมื่อถามว่าจะมีมาตรการที่นำไปปฏิบัติได้ทันทีหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า แน่นอน มีหลายมาตรการและขอให้รอฟัง ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ขอให้ รอผ่านการประชุมของสมช.ก่อน  

เมื่อถามว่า หลังจากผลการประชุมสมช.ออกมาแล้ว ขั้นตอนการปฏิบัติต่อไปจะเป็นอย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ก็จะเสนอครม.เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรม กระทรวงต่างๆ ซึ่งแผนดังกล่าวต้องถูกเสนอ กลั่นกรอง ปรับแต่ง เพิ่มเติมให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็อาจจะยังไม่มีข้อยุติ อาจมีการมอบแนวทางเพิ่มเติมให้ไปดำเนินการ หรืออาจจะตั้งกลไกพิเศษเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจก็เป็นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อถกเถียงเรื่องการดึงกำไรจากโรงกลั่นน้ำมัน ระหว่างกระทรวงพลังงานและกระทรวงพาณิชย์ ทางสมช.จะเป็นผู้ชี้ขาดเองหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้กลไกทางกฎหมาย ส่วนการเจรจาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่าจะใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขอให้รอฟังหลังการประชุมในวันจันทร์โดยในที่ประชุมจะมีคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานหลักในการพิจารณาเรื่องนี้ด้วย