วันที่ 1 ก.ค.65  ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย โจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน และบินล้ำแดนเข้ามาในพื้นที่อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า หน่วยงานผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่และขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้ ทั้งนี้การสู้รบอยู่ในประเทศเมียนมาบริเวณชายแดน ซึ่งสภาพภูมิประเทศตรงนั้นมีลักษณะเป็นพื้นที่จะงอยแคบๆ ยื่นเข้าไปในฝั่งเมียนมา ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมามีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองทัพและกระทรวงกลาโหมเฝ้าติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวต่างๆอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ กองทัพอากาศได้ชี้แจงรายละเอียดชัดเจนหลายรอบแล้วเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เราต้องกำชับเพิ่มเติมคือมาตรการที่ให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ความขัดแย้งดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างไทยกับเมียนมา แต่เป็นเรื่องภายในประเทศเมียนมาแล้วส่งผลกระทบกับไทย เราจึงต้องประท้วงไปตามขั้นตอนของหน่วยงานทุกระดับชั้น ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้หนีภัยสงครามทะลักเข้ามาในไทยอีก ฝ่ายไทยมีแผนการรับมืออย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เรามีการเตรียมรับมืออยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียวในสัปดาห์นี้ แต่เกิดขึ้นมาแล้ว 4-5 ครั้งในรอบปี ซึ่งเราได้ดำเนินการไปตามมาตรการ และทุกหน่วยได้ปรับการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่อถามถึงการประสานงานกับเมียนมาเพื่อไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในไทยอีก พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า มีการประสานทุกระดับ และตนเข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเรื่องนี้ด้วย ขณะเดียวกันหน่วยงานต่างๆในระดับพื้นที่ ระดับกองทัพภาค ระหว่างกองทัพอากาศด้วยกัน และระหว่างทูตกับทูต ทั้งทูตทหารและทูตปกติ ได้มีการพูดคุยกันชัดเจน