วันที่ 1 ก.ค.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จับกุม นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ฐานกระทำความผิด เปิดเผยเอกสารอันเป็นความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องทางกฎหมาย เพราะไม่ว่าใครกระทำผิดตามกฎหมายก็ต้องดำเนินการ เรื่องความมั่นคงที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก็เป็นเรื่องปกติที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องดำเนินการอยู่แล้ว สมช.ได้มอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 11 คนด้วยหรือไม่ที่ สมช.จับตาอยู่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เราต้องดูในอนาคตคือ เรื่องของการเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค พ.ศ.2565 ในฐานะที่เราเป็นเจ้าภาพจึงต้องจัดเตรียมบ้านให้มั่นคงปลอดภัยที่สุด ส่วนเรื่องการเมืองจะมีผลกระทบอะไร ตนคิดว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบมีแผนดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชุมนุมประท้วงหรือเรื่องอะไรต่างๆ ก็ดี และขอฝากทุกคนช่วยกันพูดคุยว่าการดำเนินการใด ขอให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และเคารพสิทธิของผู้อื่นเช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่ประเทศไทยต้องแก้ไขในระยะยาวเรื่องของความคิดต่างอย่างสร้างสรรค์

เมื่อถามว่า มีการกำชับเจ้าหน้าที่ หาข่าวเหมือนเช่นในเอกสารที่ถูกเผยแพร่ไปหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่หน่วยข่าว ตำรวจ หน่วยงานด้านความมั่นคง ดำเนินการเป็นปกติ ที่จะมีเซลในการทำงานในแต่ละมิติอย่างชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค และหากยังไม่มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะส่งผลกระทบอย่างไรหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบกระทู้ในสภาฯแทนนายกฯ ไปแล้วอย่างชัดเจนว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น หากสถานการณ์โควิดดีขึ้น ซึ่งเราคาดว่าจะดีขึ้น และสามารถกลับมาใช้กฎหมายปกติทั้งหมดได้ เราก็จะทำทันที ซึ่งเราพยายามทำต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันยังมีเงื่อนไขที่กระทรวงสาธารณสุขมีข้อกังวล ที่ไม่สามารถใช้กฎหมายปกติได้อยู่หลายประการ จึงจำเป็นต้องคงไว้ ซึ่งประเทศผู้มาร่วมประชุมเขาจะเข้าใจเราอย่างแน่นอน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่แก้ไขสถานการณ์โควิดได้ดี และเป็นไปตามนโยบายของนายกฯ ที่ให้รักษาชีวิตของคนไทยให้ได้มากที่สุด และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งเราทำมาได้ด้วยดี และขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลตัวเอง