วันนี้ (25 มิ.ย.)​  ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีหนุ่มวัย 27 ปี ซึ่งถูกพนักงานสอบสวนควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหายุยงส่งเสริมเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน โดยคัดค้านการประกันตัว แต่ผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัว ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีหลักทรัพย์เป็นเงิน 50,000 บาท และมีเงื่อนไขให้ติดกำลัง EM ตลอดเวลา ห้ามใช้คอมพิวเตอร์ ห้ามโซเชียลมีเดีย ห้ามติดต่อกับผู้เสียหายในทุกกรณี และให้ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพัก เพื่อหาพยานหลักฐานหากมีข้อสงสัยได้ตลอดเวลา ทั้งนี้หากผู้ต้องหากระทำการผิดเงื่อนไขการประกันตัวศาลจะเพิกถอนการประกันตัวทันที

จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาอย่างละเอียด ทำให้ตำรวจพบข้อมูลว่ามีหญิงสาวตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก แต่ในจำนวนนี้สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้แล้ว 10 ราย และอีก 30 ราย อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังพบคลิปหญิงสาวที่ถูกบังคับอีก 2 คลิป ซึ่งหนึ่งในผู้เสียหายพยายามฆ่าตัวตายจากเหตุการณ์ที่ถูกบังคับให้ถ่ายคลิป

สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่กระทำกับเหยื่อมี 3 ขั้นตอน เริ่มจากการหาเหยื่อทางทวิตเตอร์ โดยเลือกเหยื่อที่แต่งชุดคอสเพลย์และมีรูปร่างหน้าตาน่ารัก จากนั้นจะสร้างความไว้วางใจโดยเข้าไปพูดคุยกับเหยื่อ โน้มน้าวให้เหยื่อหลงเชื่อและไว้วางใจ ก่อนขอข้อมูลโซเชียลมีเดียส่วนตัว จากนั้นจะวิดีโอคอลพูดคุยและขอให้เหยื่อเปลือยกายตามการร้องขอและบันทึกคลิปการสนทนานั้นไว้เพื่อใช้แบล็คเมล์เหยื่อภายหลัง และบังคับให้เหยื่อทำตามคำสั่งและข่มขู่ หากไม่ทำตามจะนำคลิปไปเผยแพร่ต่อ

เบื้องต้นจากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหายังไม่พบว่ามีการส่งต่อไปให้บุคคลอื่นในเชิงการค้า จึงยังไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์

ขณะที่ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (รองผบก.ปคม.) กล่าวฝากเตือนผู้ปกครองให้สอดส่องดูแลการใช้โซเชียลมีเดียของบุตรหลาน เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีเด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมจำนวนมากทั้งชายและหญิง และมีอัตราส่วนเป็นผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ชอบใช้แอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อก โดยเฉพาะกลุ่มเต้นเซ็กซี่และยั่วยวน ซึ่งมีคนดูจำนวนมาก และในจำนวนนี้มักมีคนร้ายแฝงตัวอยู่ด้วย ดังนั้นการพูดคุยกับคนแปลกหน้าผู้ปกครองต้องสังเกตและดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และต้องสังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของบุตรหลานด้วย เพราะส่วนใหญ่กลุ่มคนร้ายมักใช้เงินเป็นเหยื่อล่อให้เด็กและเยาวชนหลงผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ หลังพนักงานสอบสวน​ บก.ปคม.​นำคำร้องขอฝากขังครั้งเเรก​ นาย​ ปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาในคดีสร้างบัญชีแอคเคาท์สื่อออนไลน์ปลอม หรือ อวตาร ล่อลวงน้องไข่มุก อายุ 14 ปี ถ่ายภาพโป๊ ก่อนแอบบันทึกเก็บไว้ข่มขู่แบล็คเมล์ให้ยอมทำตามข้อเรียกร้อง จนเกิดเป็นความเครียดสะสมตัดสินใจผูกคอตาย​ เป็นเวลา 12​ วัน

ต่อมาผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยในวงเงินประกัน5หมื่นบาท และห้ามผู้ต้องหาติดต่อกับบุคคลที่อาจเป็นผู้เสียหาย ห้ามใช้คอมพิวเตอร์หรือสื่อสังคมออนไลน์ ให้ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือในการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือสื่อใดๆ ของผู้ต้องหา ให้เจ้าพนักงานสามารถตรวจสอบการเดินทางและการสื่อสารของผู้ต้องหาตลอดเวลา โดยให้ผู้ต้องหาสวมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว