นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางหลังจากยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่าเถื่อนหรือไม่ และจะมีการยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)หรือไม่ว่า จากที่ติดตามข่าวเมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ระบุว่านายชวน จะส่งหนังสือไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งการส่งหนังสือไปโดยให้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค เซ็นรับรองรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย ต้องดูว่าหนังสือไปถึงครม.อย่างไร และนายชวน บรรจุวาระอย่างไร หากไปรับรองรายชื่อเดิมให้เป็นรายชื่อของญัตติรัฐมนตรี (รมต.) 11 คน ตนจะร้องต่อป.ป.ช.ต่อ เพราะตนถือว่าไม่น่าจะทำได้

เมื่อถามว่า มองว่าญัตติของฝ่ายค้านไม่ถูกต้องด้วยเหตุผลใด นายเรืองไกร กล่าวว่า เพราะเจตนาเดิมของเขา เป็นญัตติที่รมต.ที่ถูกอภิปรายมีจำนวน 10 คน ตามคำให้สัมภาษณ์ของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ซึ่งเมื่อมาเพิ่มเป็น 11 คนก็ต้องเซ็นใหม่ตามแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ให้ไปรับรองว่าที่เซ็นของ 10 คนนำมาใช้สำหรับ 11 คนก็ได้ ซึ่งตนคิดว่าไม่ถูกต้อง และหลายคนเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น ก็ต้องหาแนวทาง แต่หากดูตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่น่าจะเป็นญัตติที่ถูกต้อง เพราะเท่ากับญัตติ 11 คน แต่เดิมไม่มีคนเซ็นมา มีเฉพาะนพ.ชลน่านเซ็นมา เพราะการเซ็นชื่อเสนอญัตติต้องอ่านและเซ็นชื่อว่าเห็นด้วย แต่นี่เป็นกรณีที่ให้เขาเซ็นลอย ซึ่งเมื่อนายชวน ส่งหนังสือถึงครม. เพื่อให้กำหนดวันอภิปรายกลับมายังสภาฯ และต้องมีการบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตรงนี้จะเป็นเงื่อนไขที่ต้องให้ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบด้วย