นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า Fear and Greed !!! ความกลัว และความอยากรวย โลกใบนี้ทำงานแบบน่าสนใจ

ช่วงนี้ มีตัวเลขหลายตัวเลขออกมาที่สะท้อนถึง เศรษฐกิจสหรัฐซึ่งอ่อนกว่าที่ทุกคนคิดไว้ ทำให้ความกลัว Recession ปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายน สำรวจโดย University of Michigan ลดต่ำสุดในรอบหลายๆ เดือน

Flash Composite Purchasing Managers’ Index ของ S&P เดือนล่าสุด ลดลงต่ำสุดนับแต่ต้นปี

IMF ออกมาลดประมาณการว่าสหรัฐจะโตได้ 2.9% 1.7% และ 0.8% ในปี 2022-2024 ตามลำดับ

ตัวเลขเหล่านี้ ช่วยซ้ำเติมให้คนกลัว Recession เพิ่มขึ้น

ที่สำคัญที่สุดที่ออกมาเมื่อวานนี้ ก็คือ ผลสำรวจโดย University of Michigan เกี่ยวกับ "ตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาว" ซึ่งเฟดจับตามองตัวเลขนี้อย่างใกล้ชิด

ท่านประธานเฟดถึงกับอ้างถึงว่า ได้กระโดดขึ้นไปที่ 3.3% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอย่างน่าจับตามอง และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

ล่าสุด ผู้สำรวจได้ปรับลดตัวเลขดังกล่าวมาที่ 3.1% อยู่ในกรอบ 2.9-3.1% ที่เคยเป็นในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา

จากจุดที่ตัวเลขนี้ประกาศตอน 10:00 น (สหรัฐ) หุ้นต่างๆ ก็ปรับดีขึ้น

Dow +823 จุด หรือ +2.68%

Nasdaq +375 จุด หรือ +3.34%

S&P500 +116 จุด หรือ +3.06%

ทั้งนี้ เป็นเพราะนักวิเคราะห์มองกันว่า ถ้าตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวลดลงมาดีกว่าคาดเช่นนี้ และเศรษฐกิจสหรัฐก็เริ่มอ่อนลง ทั้งอาจมีโอกาสเกิด Recession การที่เฟดจะขึ้น 0.75% ในการประชุมครั้งหน้า ก็จะมีความเป็นไปได้น้อยลง

ทำให้ตลาดดีใจ และแอบคิดว่า "จะจบแล้ว"

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้คงต้องบอกว่า ปกติแล้ว สำหรับเศรษฐกิจที่กำลังจะหาจุดต่ำสุด ก็มีอาการ "3 วันดี 4 วันไข้" เช่นนี้ ดีบ้าง แย่บ้างสลับกันไป ไม่เหมือนช่วงฟื้นตัว ที่จะมีข่าวดี 80-90% หรือช่วงวิกฤตที่มีแต่ข่าวร้าย 80-90% เต็มหน้าข่าว

การที่มีอาการ "3 วันดี 4 วันไข้" จะทำให้ตลาดเหวี่ยงไปมา ตามตัวเลขที่ออกมา

ถ้าออกมาอย่างคิด ก็ดีใจ

ถ้าออกมาต่างจากคิด ก็ตกใจ

หากเศรษฐกิจและตลาดจะเป็นเช่นนี้ เราคงต้องระวังตัว

เพราะเราไม่รู้ว่า ตัวเลขที่จะออกมาแต่ละวัน จะผิดไปจากที่คาดไว้หรือไม่

อย่างที่บอกจะ 3 วันดี 4 วันไข้ ไปอีกระยะ

หากจะลงทุนก็ลงบ้าง แต่อย่าเอาทุกอย่างไปเสี่ยงกับความไม่แน่นอน ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นครับ

#ท่องเศรษฐกิจกับดรกอบ #FearGreed

ปล. มีนักข่าวรายงานว่า ที่ปรับลดลงจาก 3.3% เป็น 3.1% เพราะมีคนที่ส่งคำตอบเข้าเพิ่มในช่วงหลัง จำนวนเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้น !!! แต่ด้วยที่ช่วงหลังๆ มีความกังวลใจเรื่องเศรษฐกิจไม่ดีมากขึ้น ก็เลยคาดกันว่าเงินเฟ้อคงจะลดลงในระยะยาว และเป็นที่มาของการปรับตัวขึ้นของตลาด