บิ๊กตู่ พร้อมแจงศึกซักฟอก สั่งรมต.เตรียมข้อมูลชี้แจง โฆษกรบ.ยัน ไม่มีตั้งวอร์รูม เย้ยใช้ขุนพลทะลวงฟันเยอะ ไม่ได้การันตีคุณภาพ ด้าน สภาฯ เดือด! สุชาติ สอน นายกฯ อย่าสักแต่สั่งเหมือนทหาร เตือนต้องมีความรับผิดชอบมาตอบกระทู้ด้วย ส่วน ประเสริฐ ลั่น ฝ่ายค้าน จ่องัดไม้เด็ดโชว์ใบเสร็จนายกฯ ทุจริตกลางเวทีซักฟอก เล็งยื่นป.ป.ช.ฟันซ้ำ หลังจบอภิปราย เตรียมขุนพลทะลวงฟันอื้อ
       
       
        
 เมื่อเวลา 11.05 น.วันที่ 23 มิ.ย.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 2/2565 พร้อมปฏิเสธ ให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า ได้มอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้ชี้แจงแทน
         
จากนั้นนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความพร้อมในการชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจและได้ฝากกับบรรดารัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติให้เตรียมความพร้อมและเตรียมตัวชี้แจงข้อมูลต่างๆและสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับประชาชน
         
เมื่อถามว่า ทีมงานโฆษกฯต้องเตรียมชี้แจงเพิ่มเติมหลังจากนายกฯหรือครม.ถูกอภิปรายและจะตั้งเป็นวอร์รูมหรือไม่  นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนของทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯก็มีการเตรียมทีมสนับสนุนไว้ตลอดอยู่แล้วและได้มอนิเตอร์ข้อมูลข่าวสารทุกเรื่อง 
        
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงนี้ดูเหมือนนายกฯจะสงวนท่าทีในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและงดตอบโต้ประเด็นการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เป็นการปรับเปลี่ยนท่าทีใหม่ใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ และพล.อ.ประยุทธ์  มอบหมายให้ตนเป็นคนชี้แจง ซึ่งคิดว่าบางครั้งนายกฯมีงานจำนวนมาก มีแฟ้มเอกสารต่างๆจำนวนมาก นายกฯต้องทำงานหลายอย่าง พร้อมกับการลงพื้นที่เพื่อติดตามโครงการต่างๆของรัฐบาลมากขึ้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีโครงการมากมายทั้งเรื่องการคมนาคม ดิจิทัลต่างๆนายกฯก็จะลงพื้นที่เพื่อไปติดตามความคืบหน้ามากขึ้น และไม่ใช่เป็นการปรับท่าทีใหม่  ทั้งนี้คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจถึงการทำงานของนายกฯ ว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นคนแบบนี้ ตั้งใจมุ่งมั่นทำงาน จึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ปรับท่าทีอะไร
       
  นายธนกร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เตรียมขุนพลอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ประมาณ 15 คน และมีใบเสร็จการทุจริตสามารถเช็คบิลต่อได้ พร้อมทั้งจะยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจบการอภิปราย ในความผิดทุจริตในการบริหารราชการแผ่นดินด้วยว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายค้านต้องพยายามโหมโรงเพื่อให้ประชาชนสนใจ เพราะจนถึงวันนี้เชื่อได้ว่าไม่น่าจะหาหลักฐานมาสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ตัวเองตั้งตามอำเภอใจได้ ไม่เช่นนั้นคงอภิปรายรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คนแต่เน้นๆ ไปแล้ว คงจะไม่อภิปรายแบบหว่านแหแบบนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหา เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด โดยเฉพาะนายกฯ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขอเพียงฝ่ายค้านนำหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงมาแสดงต่อที่ประชุมสภาฯ ไม่ใช่หลักฐานชนิดที่ทึกทักหรือมโนเอาเองว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ รัฐบาลพร้อมจะนำทุกข้อมูลการอภิปรายที่เป็นประโยชน์ไปปรับปรุงและแก้ไขต่อไป
    
   "การที่ฝ่ายค้านอ้างว่ามีความยากในการจัดสรรเวลา เนื่องจากแต่ละคนไม่เปิดเผยข้อมูลก่อน เกรงว่าข้อสอบจะรั่วนั้น แสดงให้เห็นว่า แม้แต่ในพรรคร่วมฝ่ายค้านเองก็ยังไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันเลย ดังนั้น การอ้างว่ามีใบเสร็จการทุจริตของท่านนายกฯ นั้น จึงไม่แน่ใจว่ามีใบเสร็จการทุจริตจริงๆ หรือพูดเพื่อสร้างราคาให้กับตัวเองกันแน่ อย่างไรก็ตาม อยากให้ฝ่ายค้านใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาของประชาชนไปเปล่าๆ เพราะการใช้ขุนพลทะลวงฟันเยอะ ไม่ได้การันตีว่าคุณภาพจะเยอะตามไปด้วย  อย่าให้ประชาชนต้องเสื่อมศรัทธาการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านตามระบอบประชาธิปไตยไปมากกว่านี้อีกเลย
         
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  พรรคเพื่อไทยได้เตรียมขุนพลอภิปรายไว้ประมาณ 15 คน แต่อาจจะมีเพิ่มเติม 2-3 คน หากมีประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นมาซึ่งจะเน้นอภิปรายในประเด็นเรื่องการทุจริตเป็นหลัก เพราะมีหลักฐานหลายคน รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมด้วย ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน โดยมีใบเสร็จการทุจริตสามารถเช็คบิลต่อได้ แต่ยอมรับว่าเสียงสภาฯ อาจจะไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่มันจะทำให้ประชาชนมีข้อมูลตัดสินว่า รัฐบาลควรจะอยู่หรือไป และในส่วนของนายกฯ ทางพรรคเพื่อไทยก็เตรียมจะนำเรื่องยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังการจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ในความผิดทุจริตในการบริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายจึงมีการตกลงร่วมกันในพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะต้องเป็นเรื่องใหม่ แต่หากจะอภิปรายเรื่องเดิมจะต้องเป็นข้อมูลใหม่ 
       
  นายประเสริฐ กล่าวว่า ทั้งนี้ยอมรับว่ามีความยากในการจัดสรรเวลา เนื่องจากแต่ละคนไม่มีการเปิดเผยข้อมูลก่อน เนื่องจากเกรงว่าข้อสอบจะรั่ว แต่ก็ได้พยายามกำชับในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ใช้เวลาเต็มที่ และเป็นประโยชน์มากที่สุด อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถเปิดการอภิปรายได้ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. เป็นต้นไป  เพราะดูจากไทม์ไลน์การพิจารณากฎหมายอื่นๆแล้ว เป็นช่วงเวลานี้มีความเหมาะสมที่สุด โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงย้ำว่าอยากได้เวลาอภิปราย 5 วันไม่รวมวันลงมติ
      
   วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ระหว่างการพิจารณากระทู้สดเสร็จบางเรื่องเสร็จ เมื่อมาถึงช่วงกระทู้ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เรื่องเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ปรากฎว่า ประธานในที่ประชุมแจ้งว่า นายกฯ ได้ทำหนังสือแจ้งว่า ติดภารกิจสำคัญไม่สามารถมาตอบได้ โดยมอบหมายให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง มาตอบกระทู้แทน แต่นายอาคม แจ้งว่าติดภารกิจจึงมอบหมายให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง มาตอบกระทู้แทน ทำให้นายพิธา ต้องหารือกับประธานในที่ประชุมพร้อมขอฝากประธานฯให้นายกฯ ทำตามข้อบังคับข้อที่ 151 และข้อที่ 156 ว่าจะมาตอบเมื่อไหร่ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความทุกข์ร้อนของประชาชน 
     
    ทั้งนี้นายสุชาติ กล่าวว่า ในกรณีกระทู้ถามสดด้วยวาจาวันนี้ นายกฯกับรัฐมนตรีไม่ได้มาตอบ ถ้าท่านยังติดใจจะถามต่อไปในสัปดาห์หน้าที่ประชุมคงไม่ขัดข้อง ส่วนกรณีของนายพิธาที่ท้วงติงมาถือว่ามีเหตุผล ตนก็เคยท้วงติงไปหลายครั้ง การมอบหมายครั้งที่ผ่านมาตนท้วงติงกับรมว.มหาดไทย ว่าไม่ใช่สักแต่จะมอบ แต่ต้องถามผู้รับมอบว่าพร้อมหรือไม่ ตนอยากจะฝากข้อบังคับการประชุมข้อที่ 151 แม้ว่าสภาจะไม่สามารถบังคับรัฐบาลได้ แต่เป็นเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกัน จึงอยากฝากรัฐมนตรีไปยังนายกฯ ให้เตือนท่านนายกฯในที่ประชุมครม. ว่าสภามีข้อบังคับการประชุมข้อที่ 151 ท่านควรมาตอบเองให้เกียรติสภาหน่อย ถ้าติดภารกิจควรต้องมอบหมายบุคคลที่มาตอบได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือรองนายกฯได้หรือไม่ หรือใครที่มีความรู้ที่จะมาตอบได้ ก็ขอฝากตรงนี้ด้วย 
    
     "ขอกำชับว่าการมอบหมายอย่าสั่งเหมือนทหาร คือสั่งไปแล้วถือว่าจบกันแบบนั้นไม่ใช่ แต่ขอให้สั่งเหมือนนักการเมืองต้องสอบถามกันหน่อยว่าว่างหรือไม่ ตอบได้หรือไม่ แบบนี้ไม่เรียกว่ามอบหมาย เพราะมอบหมายแล้วไม่มาตอบถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ ขอฝากท่านนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ไปเรียนนายกฯด้วย"