วันที่ 23 มิ.ย.65 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เข้าดำเนินการตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียนว่า  มีกลุ่มนายทุนลักลอบขุดดินจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไปถมในบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน  เพื่อทำรีสอร์ตและลานกางเต็นท์ ในพื้นที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี 

ต่อมานายอุธร สุทธิมิตร ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) เจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเร่งด่วน โดยบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ศูนย์ป่าไม้สุพรรณบุรี หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สพ.1 (ด่านช้าง) ตำรวจ บก.ปทส. กอ.รมน. สุพรรณบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอด่านช้าง และเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานกาญจนบุรี

จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกำ และป่าเขาห้วยพลู ท้องที่ ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี พบมีการบุกรุกขุดถมดิน และขยายพื้นที่รุกล้ำเข้าไปในอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน  4 จุด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้อนุญาตให้กรมชลประทาน ใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน  

โดยจุดแรกเนื้อที่ 10 ไร่ 65 ตารางวา ซึ่งเป็นแปลงสำรวจถือครอง คทช. ของหญิงรายหนึ่งที่ได้แจ้งไว้ เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 79 ตารางวา พบว่ามีการถมดินขยายพื้นที่เพิ่ม 3 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา จุดที่ 2 เป็นแปลงสำรวจ คทช . เนื้อที่ 4 ไร่  1 งาน  51 ตารางวา พบว่ามีการถมดินขยายพื้นที่เพิ่มเนื้อที่  2 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา จุดที่ 3 เป็นแปลงสำรวจ คทช.เนื้อที่ 3 งาน  53 ตารางวา มีการขุดดินลูกรังบริเวณชายเขา เพื่อมาถมในพื้นที่ของตนเอง โดยเป็นพื้นที่ขุดดินลูกรัง 3 งาน 48 ตารางวา และจุดที่ 4 เป็นแปลงสำรวจ คทช. ของชายคนหนึ่งที่ได้แจ้งครอบครองเนื้อที่ 19-0-43 ไร่ พบว่ามีการถมดินขยายพื้นที่เพิ่ม 12 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา 

ซึ่งทั้ง 4 ราย กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ทั้ง 4 จุด ซึ่งจากข้อมูลเชิงลึกพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงนำเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรองค์พระ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสืบสวนสอบสวน และนำตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากข้อมูลเชิงลึกพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบโดยรอบพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำตะเพินอย่างละเอียดทุกราย หากพบในช่วงที่มีการดำเนินการโครงการ คทช. มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ หรือกระทำผิดระเบียบกฎหมาย จะดำเนินคดี และเสนอเรื่องไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) เพื่อแจ้งสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ และจังหวัดสุพรรณบุรี ตัดสิทธิ และถอดถอนรายชื่อออกจากบัญชีสำรวจถือครอง ตามโครงการ คทช. ต่อไป