วันที่ 23 มิ.ย.2565 นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองประจำนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุขออกมาตอบโต้ นายพชร ธรรมมล หรือ “ฟลุ๊ก เดอะสตาร์” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ว่าเราต้องออกมาตอบโต้ในประเด็นที่ถูกกล่าวหา เพราะต้องปกป้องศักดิ์ศรีของพรรค แม้จะรู้ดีว่าการสื่อสารของเราจะถูกนักการเมืองเกรดต่ำ นำไปใช้หาแสงเข้าตัวเองก็ตาม

เช่นที่กรณีนายฟลุ๊ก สื่อสารด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จว่า มีข่าวเรื่องพบผู้เสียชีวิตจากกัญชา ในความเป็นจริงคือ ตั้งแต่วันที่เราปลดล็อก 9 มิ.ย.2565 ยังไม่พบรายงานตรงนั้นเลย สำหรับข่าวว่าพบหนึ่งเคสที่ กทม. ก็เป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะพิสูจน์มาแล้ว ว่าเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว ไม่เกี่ยวกับกัญชา

นายพลพีร์ กล่าวว่าเรื่องนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. และนายอนุทิน ทำความเข้าใจกับสังคมแล้ว ส่วนที่บอกว่ามีเด็กเข้าโรงพยาบาลเป็นจำนวนมากเพราะใช้กัญชา ช่วยสรุปมาให้ดูเป็นตัวเลขได้หรือไม่ หรือถนัดตีขลุมด่า แต่ไม่มีข้อมูล ทำตัวเป็นโฆษกตลาดล่าง เน้นสร้างดราม่า มากกว่าหาข้อเท็จจริง

"แล้วที่มาพูดเรื่องโกงจำนำข้าวนั้น ถามว่า ทำไมจะพูดไม่ได้ จริงๆ ยิ่งต้องพูดให้มากเสียด้วยซ้ำ เพราะนี่คือบาดแผลของประเทศไทย ในการใช้งบประมาณที่ล้มเหลว ผิดพลาด ไม่โปร่งใส ถึงขั้นที่นายกฯ ต้องหนี ผมจะขอใช้คำว่าให้ท่านได้ไปพักผ่อนต่างประเทศแล้วกัน เพราะก็มีความเคารพกันอยู่ ขณะที่รัฐมนตรี ต้องติดคุก แบบนี้ ยิ่งต้องพูด เพื่อเตือนว่า ใครที่ขึ้นมามีอำนาจก็อย่าริทำเช่นนี้อีก"

นายพลพีร์ กล่าวต่อว่า แล้วถ้าจะมาบอกว่าพรรคภูมิใจไทยมอมเมาเยาวชน แล้วพรรคคุณ สมัยหนึ่งเขาให้งบไปสร้างสนามฟุตซอลให้เยาวชนออกกำลังกาย ก็ยังไปโกงเงินชาติ เงินแผ่นดิน ศาลรับฟ้องไปแล้ว เวลานี้กำลังไต่สวน แบบนี้เรียกว่าหากินกับเด็กใช่หรือไม่ และคดีนี้ ก็มีครูมากมาย ที่ควรเป็นพ่อพิมพ์และแม่พิมพ์ สร้างอนาคตชาติ ต้องรับเคราะห์แทน เห็นแล้วสงสาร เหมือนกับคดีจำนำข้าว ที่มีคนมากมายต้องทำอัตวิบากกรมตัวเอง สังเวยความล้มเหลวของนโยบาย

สำหรับเรื่องวัคซีน ที่นายฟลุ๊กบอกว่า รัฐมนตรี สธ.ซื้อแต่ซิโนแวค แต่มั่นใจว่า ในตัวของนายฟลุ๊ก มีวัคซีนยี่ห้ออื่นด้วยใช่หรือไม่ ซึ่งก็เป็นวัคซีนที่รัฐจัดหาให้ จะเห็นว่ารัฐ ให้บริการทั้งไฟเซอร์ ทั้งแอสตราเซเนก้า และอีกหลายยี่ห้อ แต่นายฟลุ๊ก ปล่อยเฟคนิวส์หน้าด้านๆ ออกมา ไม่ละอายแก่ใจ เรื่องวัคซีนเต็มแขน ทุกวันนี้ คนไทยฉีดไป 3-4 เข็มแล้ว เพื่อป้องกันอาการรุนแรงจากโรค และเพื่อความปลอดภัย เมื่อต้องเปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องประกาศว่า ไม่ร่วมกับพลเอกประยุทธ์ นายอนุทิน ไม่เคยพูดคำนั้น แต่ท่าน จะไม่ยอมให้ ส.ว.มาเป็นตัวชี้ขาดเลือกนายกฯ ซึ่งอันที่จริง จะเห็นว่า ส.ส.กว่าครึ่งเลือกนายกฯ ชื่อพลเอกประยุทธ์ เรื่องการเลือกพลเอกประยุทธ์ มันจบไปตั้งแต่ชั้น ส.ส.แล้ว นายฟลุ๊ก อาจจะเล่นแต่อินเตอร์เน็ต จึงไม่มีข้อมูลตรงส่วนนี้ แต่เป็นนักการเมือง ควรจะรู้รอบ และให้ข้อมูลที่เป็นจริงมากกว่าปล่อยข่าวปลอม

“การที่ออกมาบอกว่าคนที่มาเมนทต์ ในเพจคือพวกไอโอ ก็แสดงว่ายอมรับแล้วว่า อันที่จริงพรรคเพื่อไทย ก็พวกไอโอเยอะ หนึ่งคนเล่นกันร้อยอวตารใช่หรือไม่ นี่ไงที่มาของกระแสโซเชียล สำหรับพรรคเพื่อไทย ทุกวันนี้ ขุดของเก่ากินกันแล้ว ล่าสุด ไปเอานายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กลับมา แสดงว่าหมดตัวเล่น ยิ่งระยะหลัง ผลงานไม่ค่อยจะมี เน้นหนักไปทางเป็นคดีความเสียมากกว่า แถมเสียงคนรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดเดียวกัน ก็เทไปทางพรรคอื่น

หากรอบหน้าไม่ชนะเลือกตั้ง ไม่ได้เป็นรัฐบาล ผลงานที่ขายไว้ เมื่อเกือบ 20 ปีมาก่อน คนก็ลืมไปหมดแล้ว จะจำได้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ เช่นเรื่องโกงจำนำข้าวเท่านั้น สงสัยเพื่อไทย จะอาการหนัก นายฟลุ๊ก ก็อย่าลืมหางานใหม่รองรับด้วย แต่อย่ามาเป็นโฆษก เพราะพูดออกมาแล้วถูกโต้คืนได้แบบนี้ แสดงว่าหัวไม่ไปแล้ว ระหว่างที่ทบทวนว่าจะไปทำอะไรต่อดี ขอให้เปลี่ยนแนวการทำงาน ช่วยไปตามทวงงบแผ่นดินที่สูญเสียไปในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่เคยโกงชาติบ้านเมือง กลับคืนมาดีกว่า ขอย้ำว่า การสื่อสารทั้งหมด เป็นไปเพื่อรักษาเกียรติยศของความเป็นภูมิใจไทย เราจะไม่โจมตีใครก่อน แต่เราก็ไม่ยอมให้ใครมาหมิ่นศักดิ์ศรีเช่นกัน” นายพลพีร์ กล่าว