ดร.สมคิด ปิ่นทอง เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมชาติ รายงานการแข่งขันเทควันโดพุมเซ่ (ท่ารำ) ชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 10 หรือศึก “เวิลด์ เทควันโดพุมเซ่ แชมเปี้ยนชิพ 2016” เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู โดยมีนักกีฬาจาก 55 ประเทศทั่วโลกร่วมชิงชัยกันคับคั่ง ซึ่งก่อนหน้านี้นักเทควันโดไทยประเดิมมาได้แล้ว 1 เหรียญเงิน จากประเภทพุมเซ่คู่ผสม รุ่นอายุไม่เกิน 30 ปี คือ “เจ้าเบนซ์” พงศ์ภรณ์ สุวิทยารักษ์ กับ “น้องลูกเกด” เกษรา เกียรติอัชวะชัย ส่วนการแข่งขันในวันนี้ ผลปรากฏว่า ประเภทพุมเซ่ทีมหญิง รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ไทยส่ง "น้องเจล" เพ็ญกัญญา ไพศาลเกียรติกุล "น้องออมสิน" อรนวีย์ ศรีสหกิจ และ "น้องออน" กชวรรณ ชมชื่น สามดาวรุ่งดวงใหม่ลงโชว์ลีลาและผลงานร่ายรำได้อย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะถูกใจกรรมการผู้ตัดสินตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศทำได้ 8.43 คะแนน คว้าเหรียญทองประวัติศาสต์แรกไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ เหรียญเงินตกเป็นของ ไต้หวัน ทำได้ 8.28 คะแนน และ เหรียญทองแดง เวียดนาม 8.28 คะแนน กับ จีน 8.16 คะแนน หลังเกม "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เปิดเผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มและดีใจแทนนักกีฬาทุกคน รวมไปถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชที่ได้ทุ่มเทเสียสละในการฟิตซ้อมหนักมาตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่เช่นนี้ด้วยการคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์แรกกลับมาได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เราดีสุด คือ เหรียญทองแดงประเภทบุคคลหญิงเมื่อหลายปีก่อนที่ประเทศรัสเซีย ส่วนในระดับชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมาที่ฟิลิปปินส์ก็ได้แค่เหรียญเงินมาครองเท่านั้น ครั้งนี้จึงเป็นอะไรที่พิเศษและถือว่า เป็นของขวัญให้กับแฟนๆกีฬาเทควันโดชาวไทยทั้งประเทศ เพราะนอกเหนือจากตัวเองจะการสนับสนุนประเภทเคียวรูกิ (ต่อสู้) ไปสู่ระดับท็อปของโลกแล้ว ในประเภทพุมเซ่ (ท่ารำ) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สมาคมฯจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ล่าสุดเวลานี้เราได้ลงทุนเดือนละเป็นแสนบาทจ้างโค้ช ลี นายอน เฮดโค้ชเทควันโดพุมเซ่เฉพาะทางชาวเกาหลีใต้มาดูแลนักกีฬาอย่างเต็มที่ทั้งระบบ เพื่อพัฒนากีฬาชนิดนี้ให้ไปสู่เป้าหมายสูงสุด ไล่ตั้งแต่ในระดับ ซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, ชิงแชมป์เอเชีย และ ชิงแชมป์โลก เพื่อต้องการให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพิ่มจำนวนประชากรกีฬาเทควันโดในบ้านเราให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะการเล่นกีฬาชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องแค่ต่อสู้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ประเภทร่ายรำก็สามารถสร้างผลงานและชื่อเสียงกลับมาได้เหมือนกัน ถือว่า เราได้เดินมาถูกทางแล้ว จากนี้ไปก็ยังมีลุ้นเหรียญรางวัลอีกในประเภทฟรีสไตล์ จึงอยากให้ทุกคนติดตามผลงานกันให้ดี