วันที่ 7 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้เห็นคลิปว่า มีเด็กหญิงอายุ 11 ขวบ ช่วยยายทอพรมเช็ดเท้าหลังกลับจากโรงเรียนทุกวันทำการการบ้านเสร็จจะต้องมานั่งทอผ้าช่วยยายแบ่งเบาภาระให้ยายหายเหนื่อย จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 7หมู่ 9 ต.ศรีกะอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก บริเวณบ้านเป็นบ้าน 2 ชั้น ข้างล่างเป็นปูนข้างบนเป็นไม้ และยังก่อสร้างไม่เสร็จ และได้พบกับเด็กหญิงชลิตา สุทธรักษ์ อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดเขาหัวนา กำลังนั่งทอพรมเช็ดเท้าด้วยเครื่องจักรสานสมัยเก่าอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจโดยมีนางอุทัย โสภา อายุ 59 ปี ผู้เป็นยายนั้นคอยสอนอยู่ข้างไม่ห่างพร้อมแอบยิ้มว่าหลานนั้นช่วยแบ่งเบาภาระได้เป็นอย่างดี แสดงถึงความกตัญญูให้กับตนเองอย่างเห็นได้ชัด

จากการสอบถาม นางอุทัย โสภา ผู้เป็นยายเล่าให้ฟังว่า ตนเองอยู่กินกันแค่ 3 คน โดยมีตนเองและสามี และหลาน  ซึ่งตนเอง มีอาชีพทำไร่ทำสวนและรับจ้างทั่วไปตนเองต้องทำงานคนเดียวซึ่งตอนนี้สามีตนเองก็อายุ 65 ปี ป่วยทำงานไม่ไหว แถมยังพิการตาบอดข้างซ้ายมองไม่เห็นบัตรคนพิการก็ไม่เคยมีไปทำบัตรคนพิการแต่ไม่มีใครเซ็นรับรองให้ ก็ต้องอยู่กันไปตามประสาคนแก่ก็ได้เงินจากลูกๆส่งมาให้กินให้ใช้บ้าง ตนเองก็ต้องหาอาชีพเสริมด้วยการทอพรมเช็ดเท้าขายผืนละ 12 บาท พอได้เป็นค่ากับข้าวก็ได้หลานสาวคอยช่วยแบ่งเบาภาระได้หัดให้เค้าทอผ้าวันนึงก็จะได้ 5 ผืนหลังเค้ากลับจากโรงเรียนเค้าจะมาช่วยทุกครั้งตัวเราก็อดน้ำตาไหลไม่ได้บางทีก็แอบถ่ายคลิปเค้าไว้ตอนเค้าทอผ้าเอาไว้ให้เค้าดูตอนโต

ด้านเด็กหญิงชลิตา สุทธิรักษ์ หลานสาวเล่าว่าหนูกลับจากโรงเรียนหนูจะมาช่วยยายทอผ้าทุกวัน ได้วัน ละ 4-5 ผืนก็ทำไปอยากจะช่วยยายและตาบ้างเพิ่อตอบแทนพระคุณที่ ยายกับตาเลี้ยงหนูมาแต่หนูไม่รู้จะทำยังไงเห็นยายเหนื่อยทุกวันก็เลยอยากจะทอผ้าให้เก่งและมันช่วยแบ่งเบาภาระยายได้บ้างอย่างน้อยอาชีพการทอผ้าหนูก็จะมีติดตัวและก็นำไปประกอบอาชีพในตอนโตได้ หนูรักยายหนูอยากตอบแทนพระคุณยาย