เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายพฤกษ์ เรืองไวทย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุตรดิตถ์ นายมานพ สุวรรณบุตร หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน เข้าประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ครั้งที่ 20/2565 ผ่าน Application Zoom โดยมี ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดี ฝ่ายบำรุงรักษากรมชลประทาน เป็นประธานการประชุม ถ่ายทอดจากศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ชั้น 3 อาคาร 99 ปี หม่อมหลวง ชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำจากพื้นที่ต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำ ณ ห้องประชุมโครงการชลประทานอุตรดิตถ์ ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (23 พ.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 43,036 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯรวมกัน สามารถรับน้ำได้อีก 33,048 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 10,113 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 14,758 ล้าน ลบ.ม. ภาพรวมสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 24-25 พ.ค.65 ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 พ.ค.65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ จึงได้กำชับไปยังสำนักงานชลประทานและศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยคำนึงถึง ปริมาณ เวลา ผลกระทบ ผู้มีส่วนได้เสีย ความมั่นคงของอาคารชลประทาน และระเบียบกฎหมายข้อบังคับ เป็นหลัก เชื่อมโยงการบริหารจัดการน้ำระหว่างสำนักงานชลประทานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน อย่างเคร่งครัด เน้นย้ำความพร้อมของอาคารชลประทานและระบบโทรมาตรต้องพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งหมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญทำการประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนการระบายน้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง