วันที่ 23 พ.ค. 2565 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รอง ผกก.(สส.)สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่ย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านเป็ด ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายกิตติชัย ทิมอรรถ หรือบิ๊ก อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม. 6 ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ปัจจุบันพักอยู่บ้านเช่าเลขที่ 141/224 หมู่ที่ 14 ซอยกังสดาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถูกจับกุมพร้อมของกลางรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ชิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ทะเบียน กท -5662 มหาสารคาม , รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊บปี้ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน1 คัน, มีดพกสั้นปลายแหลม จำนวน 1 เล่ม ,หมวกกันน็อค สีขาว จำนวน 1 ใบ. เสื้อคลุมบริษัท " แกร็บ" สีเขียว จำนวน 1 ตัว ถุงสีแดงและตลับใส่ทองรูปพรรณรวม 5 ชิ้น ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์และรองเท้าผ้าใบอีก 3 คู่
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนร้าย พยายามวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำจากผู้เสียหาย บนถนนสายบ้านกอก -บึงหนองโคตร หลังก่อเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้ารุ่นสกู๊บปี้ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป และเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในหมู่บ้านพรศิริ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนติดตามไปถึงหมู่บ้านพรศิริ และในเวลาเดียวกันคนร้ายรายเดิมใช้มีดปลายแหลมก่อเหตุชิงทรัพย์รถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซิตี้ สีขาว ทะเบียน กท -5662 มหาสารคาม จากบ้านเลขที่ 777/50 หมู่บ้านพรศิริ ขับหลบหนีไป ตามถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ติดตามรถยนต์คนร้าย กระทั่งพบรถยนต์เก๋งคันที่ถูกชิงไป จอดทิ้งไว้บริเวณตลาดอู้ฟู่ ถนนมิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ส่วนคนร้ายหลบหนีไป
" จากการก่อเหตุชิงทรัพย์ แล้วทิ้งรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ พบเจ้าของรถตัวจริง จึงทราบว่า นายกิตติชัย ยืมรถไปใช้ ยังไม่นำมาคืน จนกระทั่งเช้าวันนี้นายบิ๊ก กลับมาที่บ้านเช่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับศาลของจังหวัดขอนแก่น จับกุมนายบิ๊ก ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์และชิงทรัพย์ พร้อมทั้งตรวจค้นห้องเช่า พบชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ในลักษณะของการพ่นสีวางไว้หลายชิ้น รองเท้าผ้าใบอีกหลาย 3 คู่ จึงตรวจยึดเป็นหลักฐาน"
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวน นายบิ๊ก ให้การว่า เคยเป็นพนักงานเก็บดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบให้เจ้านายทุนชาวจง จ.กาญจนบุรี ต่อมาจึงนำเงินส่วนตัวมาปล่อยกู้นอกระบบด้วย แต่เก็บเงินไม่ได้ ทำให้ไม่มีเงินหมุน จึงได้ยืมรถเพื่อนออกมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งที่4 ลงมือก่อเหตุ แต่ยังไม่ได้ทรัพย์สินก็ถูกตำรวจไล่ติดตาม จึงหนีเข้าไปในหมู่บ้าน ชิงเอารถยนต์เก๋ง จากเจ้าของบ้านหลบหนีไป ไปจอดรถทิ้งไว้ ในตลาดอู้ฟู่ เมื่อย้อนกลับมาที่ห้องเช่า จึงถูกจับกุมได้ ทั้งรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ที่จ.กาญจนบุรี มาแล้ว 5 ครั้ง เมื่อคดีสิ้นสุด จึงมาทำงานเก็บดอกเบี้ยและปล่อยเงินกู้นอกระบบที่ขอนแก่น แต่เงินหมุนไม่ทัน จนต้องทาก่อเหตุซ้ำและถูกจับได้ดังกล่าว จากนั้น ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนร้าย พยายามวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำจากผู้เสียหาย บนถนนสายบ้านกอก -บึงหนองโคตร หลังก่อเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้ารุ่นสกู๊บปี้ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป และเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในหมู่บ้านพรศิริ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนติดตามไปถึงหมู่บ้านพรศิริ และในเวลาเดียวกันคนร้ายรายเดิมใช้มีดปลายแหลมก่อเหตุชิงทรัพย์รถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซิตี้ สีขาว ทะเบียน กท -5662 มหาสารคาม จากบ้านเลขที่ 777/50 หมู่บ้านพรศิริ ขับหลบหนีไป ตามถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ติดตามรถยนต์คนร้าย กระทั่งพบรถยนต์เก๋งคันที่ถูกชิงไป จอดทิ้งไว้บริเวณตลาดอู้ฟู่ ถนนมิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ส่วนคนร้ายหลบหนีไป
" จากการก่อเหตุชิงทรัพย์ แล้วทิ้งรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ พบเจ้าของรถตัวจริง จึงทราบว่า นายกิตติชัย ยืมรถไปใช้ ยังไม่นำมาคืน จนกระทั่งเช้าวันนี้นายบิ๊ก กลับมาที่บ้านเช่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับศาลของจังหวัดขอนแก่น จับกุมนายบิ๊ก ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์และชิงทรัพย์ พร้อมทั้งตรวจค้นห้องเช่า พบชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ในลักษณะของการพ่นสีวางไว้หลายชิ้น รองเท้าผ้าใบอีกหลาย 3 คู่ จึงตรวจยึดเป็นหลักฐาน"
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวน นายบิ๊ก ให้การว่า เคยเป็นพนักงานเก็บดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบให้เจ้านายทุนชาวจง จ.กาญจนบุรี ต่อมาจึงนำเงินส่วนตัวมาปล่อยกู้นอกระบบด้วย แต่เก็บเงินไม่ได้ ทำให้ไม่มีเงินหมุน จึงได้ยืมรถเพื่อนออกมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งที่4 ลงมือก่อเหตุ แต่ยังไม่ได้ทรัพย์สินก็ถูกตำรวจไล่ติดตาม จึงหนีเข้าไปในหมู่บ้าน ชิงเอารถยนต์เก๋ง จากเจ้าของบ้านหลบหนีไป ไปจอดรถทิ้งไว้ ในตลาดอู้ฟู่ เมื่อย้อนกลับมาที่ห้องเช่า จึงถูกจับกุมได้ ทั้งรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ที่จ.กาญจนบุรี มาแล้ว 5 ครั้ง เมื่อคดีสิ้นสุด จึงมาทำงานเก็บดอกเบี้ยและปล่อยเงินกู้นอกระบบที่ขอนแก่น แต่เงินหมุนไม่ทัน จนต้องทาก่อเหตุซ้ำและถูกจับได้ดังกล่าว จากนั้น ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการขั้นตอนของกฏหมายต่อไป