ภาวะค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ซึ่งลดลงต่ำสุดอีกครั้งในรอบ 5 ปีเท่ากับเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดย 1 ริงกิตมาเลเซียสามารถแลกเป็นเงินไทยได้เพียง 7.8 บาท ส่งผลกระทบต่อชาวมาเลเซีย ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากจะต้องแลกเงินริงกิตมาเลเซียเป็นเงินไทยเข้ามาใช้จ่ายและซื้อสิ่งของ เพราะร้านค้าไม่รับเงินริงกิตมาเลเซียรับเป็นเงินไทยเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา หลังมีการเปิดประเทศไปเกือบ 2 เดือน ชาวมาเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่มากเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งในขณะนี้ยังต้องเจอปัญหาค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ซึ่งลดลงต่ำสุดอีกครั้งในรอบ 5 ปีเท่ากับเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดย 1 ริงกิตมาเลเซียสามารถแลกเป็นเงินไทยได้เพียง 7.8 บาท ส่งผลกระทบต่อชาวมาเลเซีย ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากจะต้องแลกเงินริงกิตมาเลเซียเป็นเงินไทยเข้ามาใช้จ่ายและซื้อสิ่งของในประเทศไทย เพราะร้านค้าไม่รับเงินริงกิตมาเลเซียจะรับเป็นเงินไทยเท่านั้น
ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 1 ริงกิตมาเลเซียเวลานี้ สามารถแลกเป็นไทยได้ 7.80 บาท โดยเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ 1 ริงกิตเคยแลกเป็นเงินไทยได้มาก 10 - 12 บาท ทำให้การค้าบริเวนชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ จ.สตูล ไปจนถึง จ.นราธิวาส ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจาก สถานการณ์ค่าเงินริงกิตตกต่ำ จึงไม่ได้กระทบเพียงแค่ชาวมาเลเซีย แต่ได้ส่งผลกระทบต่อคนไทยบริเวนชายแดนเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันร้านค้าบริเวณชายหาดสมิหลาสงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะรับเงินเป็นเงินไทยเท่านั้น เนื่องจากค่าเงินริงกิตของมาเลเซียผันผวนไม่แน่นอน ในแต่ละวัน บางวัน 1 ริงกิตแลกเงินไทยได้ 7.8 บาทหรือ 7.5 บาท ทำให้การค้าขายแม่ค้าจะรับเป็นเงินไทยเท่านั้น โดยคำนวณจากสินค้าราคา 100 บาทเท่ากับเงินริงกิตมาเลเซีย 12 เหรียญ เพราะฉะนั้น เวลาชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อเสื้อผ้าและของที่ระลึกในร้านค้าบริเวณชายหาดสมิหลา เขาจะคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งทำให้การซื้อขายลดน้อยลง ไม่เหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินริงกิตลดลงชาวมาเลเซียต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น
โดย ณิชามล ชูมนุษย์ เจ้าของร้านณัชชาของฝาก กล่าวว่า การค้าขายกับทางนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็พอได้เห็นบ้าง ที่มากับรถบัสรถทัวร์บ้าง แต่การจับจ่ายใช้สอยของเขาไม่มาก เพราะว่าค่าเงินของเขาจะอ่อนค่าลง ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ราคา 7.8 หรือ 7.5 บาทแล้วแต่ละวัน ก็คือเขาก็ต้องคำนวณนิดนึงในเรื่องการใช้จ่าย ถ้าถามว่าในช่วงนี้ขายดีไหม ก็ยังขายได้เรื่อยๆ แต่เขาไม่ได้ซื้อบุ่มบ่ามเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากค่าเงินลดลง ก็คือถ้าเขาซื้อ 100 บาท เมื่อก่อนก็ 10 เหรียญริงกิต แต่ตอนนี้ต้อง 12 เหรียญ
ในปัจจุบันชาวมาเลเซียที่เข้ามาท่องเที่ยวบริเวณชายหาดแหลมสมิหลาจะเป็นการเดินทางด้วยรถส่วนตัว แต่ถ้าเป็นแบบรถบัส จะเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 1-2 คันเท่านั้น แต่การจับจ่ายซื้อของของนักท่องเที่ยวที่มากับรถทัวร์หรือรถบัสจะมีจำนวนไม่มากเหมือนกับนักท่องเที่ยวที่มากับรถส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา หลังมีการเปิดประเทศไปเกือบ 2 เดือน ชาวมาเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่มากเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งในขณะนี้ยังต้องเจอปัญหาค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ซึ่งลดลงต่ำสุดอีกครั้งในรอบ 5 ปีเท่ากับเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดย 1 ริงกิตมาเลเซียสามารถแลกเป็นเงินไทยได้เพียง 7.8 บาท ส่งผลกระทบต่อชาวมาเลเซีย ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากจะต้องแลกเงินริงกิตมาเลเซียเป็นเงินไทยเข้ามาใช้จ่ายและซื้อสิ่งของในประเทศไทย เพราะร้านค้าไม่รับเงินริงกิตมาเลเซียจะรับเป็นเงินไทยเท่านั้น
ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 1 ริงกิตมาเลเซียเวลานี้ สามารถแลกเป็นไทยได้ 7.80 บาท โดยเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ 1 ริงกิตเคยแลกเป็นเงินไทยได้มาก 10 - 12 บาท ทำให้การค้าบริเวนชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ จ.สตูล ไปจนถึง จ.นราธิวาส ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจาก สถานการณ์ค่าเงินริงกิตตกต่ำ จึงไม่ได้กระทบเพียงแค่ชาวมาเลเซีย แต่ได้ส่งผลกระทบต่อคนไทยบริเวนชายแดนเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันร้านค้าบริเวณชายหาดสมิหลาสงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะรับเงินเป็นเงินไทยเท่านั้น เนื่องจากค่าเงินริงกิตของมาเลเซียผันผวนไม่แน่นอน ในแต่ละวัน บางวัน 1 ริงกิตแลกเงินไทยได้ 7.8 บาทหรือ 7.5 บาท ทำให้การค้าขายแม่ค้าจะรับเป็นเงินไทยเท่านั้น โดยคำนวณจากสินค้าราคา 100 บาทเท่ากับเงินริงกิตมาเลเซีย 12 เหรียญ เพราะฉะนั้น เวลาชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อเสื้อผ้าและของที่ระลึกในร้านค้าบริเวณชายหาดสมิหลา เขาจะคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งทำให้การซื้อขายลดน้อยลง ไม่เหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินริงกิตลดลงชาวมาเลเซียต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น
โดย ณิชามล ชูมนุษย์ เจ้าของร้านณัชชาของฝาก กล่าวว่า การค้าขายกับทางนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็พอได้เห็นบ้าง ที่มากับรถบัสรถทัวร์บ้าง แต่การจับจ่ายใช้สอยของเขาไม่มาก เพราะว่าค่าเงินของเขาจะอ่อนค่าลง ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ราคา 7.8 หรือ 7.5 บาทแล้วแต่ละวัน ก็คือเขาก็ต้องคำนวณนิดนึงในเรื่องการใช้จ่าย ถ้าถามว่าในช่วงนี้ขายดีไหม ก็ยังขายได้เรื่อยๆ แต่เขาไม่ได้ซื้อบุ่มบ่ามเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากค่าเงินลดลง ก็คือถ้าเขาซื้อ 100 บาท เมื่อก่อนก็ 10 เหรียญริงกิต แต่ตอนนี้ต้อง 12 เหรียญ
ในปัจจุบันชาวมาเลเซียที่เข้ามาท่องเที่ยวบริเวณชายหาดแหลมสมิหลาจะเป็นการเดินทางด้วยรถส่วนตัว แต่ถ้าเป็นแบบรถบัส จะเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 1-2 คันเท่านั้น แต่การจับจ่ายซื้อของของนักท่องเที่ยวที่มากับรถทัวร์หรือรถบัสจะมีจำนวนไม่มากเหมือนกับนักท่องเที่ยวที่มากับรถส่วนตัว