พระพุทธรูปหลวงพ่อแจ้งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากประเทศลาว ได้มีการอัญเชิญมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ในปีพุทธศักราช 2401 ต่อมาทรงพระราชทานให้แก่วัดอรุณราชวราราม เนื่องจากทรงเห็นว่ามีชื่อพ้องกันกับวัด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564 พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระพรหมวัชรเมธี เจ้าคณะภาค9 เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ได้ดำหริให้ท่านพระครูปลัดสุวัฒนรัตนคุณ (ชุมพร นิติสาโร) เลขานุการวัดอรุณราชวราราม - ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม จัดให้มีพิธีเทหล่อองค์หลวงพ่อแจ้งจำลอง และพิธีเทหล่อองค์พญายักษ์วัดแจ้ง ขนาดความสูง 2.50 เมตร ขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสต์วัดอรุณราชวราราม 250 ปี อย่างยิ่งใหญ่ถูกต้องตามประเพณีโบราณทุกประการ และในการปั้นหุ่นเพื่อเททองหล่อองค์หลวงพ่อแจ้งจำลองขึ้นในคราวนั้น ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 250 ปี ประวัติศาสต์วัดอรุณราชวราราม ที่มีการจัดสร้างองค์หลวงพ่อแจ้งจำลองแบบเสมือนจริงที่สุด เท่าที่เคยมีการจัดสร้างองค์หลวงพ่อแจ้งจำลองของวัดอรุณราชวราราม โดยจัดสร้างให้สามารถถอดออกได้เป็นสามส่วน คือ 1.ยอดพระเกศ 2.องค์พระ 3.ฐาน เหมือนดั่งองค์หลวงพ่อแจ้งองค์จริงอันศักดิ์สิทธิ์ทุกประการ ในการนี้ คุณวิทย์ วัดอรุณ(อัครวิทย์ รัตนประสิทธิ์) ที่ปรึกษาในการจัดสร้าง และคุณจารุวัตร จันทร์โพธิ์ศรี(อาจารย์ไก่ ทิพยจักร) หนึ่งในคณะกรรมการจัดสร้าง จึงขออนุญาตจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระพรหมวัชรเมธี ขอเป็นธุระในการจัดหาพระบรมธาตุอันศักดิ์สิทธิ์เป็นปาฏิหาริย์ มาบรรจุในช่องพระเกศขององค์หลวงพ่อแจ้งจำลองตามเยี่ยงอย่างโบราณประเพณี โดยได้นำคณะไปขออัญเชิญพระบรมธาตุเจ้าจากบ้านคุณลุงทองดี หรรษคุณารมย์ ฆราวาสที่มีพระบรมธาตุเสด็จมาโดยปาฏิหาริย์มากที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้พระบรมธาตุที่เสด็จมานั้นได้เสด็จมายังบ้านคุณลุงเป็นเวลากว่าสามสิบปีมาแล้ว ทั้งยังได้รับการยอมรับจาก สมเด็จพระสังฆราชพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 และได้รับการยอมรับจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน รวมถึงพระมหาเถระเช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์เกี่ยว วัดสระเกศ สมเด็จช่วง วัดปากน้ำ ทั้งยังได้รับการยอมรับจากสายพระป่ากรรมฐานอย่าง พระอาจารย์อินทร์ถวาย วัดป่านาคำน้อย พระอาจารย์ทุย พระอาจารย์เนย และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะสมเด็จพระญาณสังวรนั้น ท่านทรงมีความคุ้นเคยใกล้ชิดกับคุณลุงทองดีเป็นอย่างมาก เพราะพระองค์ท่านก็มีพระบรมธาตุเสด็จมาที่พระตำหนักของพระองค์เช่นกัน และมีสัณฐานของพระบรมธาตุเช่นเดียวกันกับของบ้านคุณลุงทองดี ซึ่งเป็นพระบรมธาตุสัณฐานพิเศษนอกตำรา มีสัณฐานดั่งเปลือกหอย ข้อสำคัญอีกประการของพระบรมธาตุของบ้านคุณลุงทองดี คือได้มีการอัญเชิญพระบรมธาตุไปสู่พระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวรเพื่อทรงประทานไปยังวัดต่างๆ ก็ปรากฏว่าพระธาตุที่คุณลุงทองดีมอบไปนั้น มีการเสด็จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ สำหรับรายนามพระเจดีย์ต่างๆที่ได้มีการประทานไปเช่น พระบรมธาตุเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี พระเจดีย์ธาตุ วัดคุ้งตะเภา จ.อุตรดิตถ์ พระเจดีย์ธาตุ วัดผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์ เป็นต้น และยังมีที่มารับจากคุณลุงทองดีอีกจำนวนมากทั่วประเทศไทยเช่น เจดีย์วัดพระพุทธหัตถ์สี่รอยชายแดนไทยพม่า มหาเจดีย์วัดธาตุสมชนะวารี จ.อุดร มหาเจดีย์วัดศรีบุญเรือง จ.ขอนแก่น เจดีย์รังสีรัตนวารี วัดป่าเชิงเลน กทม ฯลฯ ไม่เพียงเท่านี้ แม้กระทั่งกษัตริย์จิ๊กมี่แห่งภูฏาน ท่านดาไลลามะแห่งทิเบต ก็ส่งผู้มาอัญเชิญพระบรมธาตุจากบ้านของคุณลุงทองดี ไปประดิษฐานยังบ้านเมืองของตน แม้กระทั่งในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ก็ได้มีการอัญเชิญพระบรมธาตุจากบ้านคุณลุงทองดีไปประดิษฐายยังพระมหาเจดีย์ของตนทั้งสิ้น ทั้งนี้พระบรมธาตุจากบ้านของคุณลุงทองดี หรรษคุณารมย์ ล้วนเป็นพระบรมธาตุปาฏิหาริย์ที่เสด็จมาเองทั้งสิ้น มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์คือมีสัณฐานใหญ่ มีสีดุจดอกมะลิ บ้างมีสีส้มแซม สัณฐานดั่งเปลือกหอย มีกลิ่นหอมประหลาด ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นกลิ่นหอมจากเทพเทวดาที่มาสักการะพระบรมธาตุเจ้า การได้มาซึ่งพระบรมธาตุจากมูลนิธิพระบรมธาตุในสังฆราชูปถัมภ์ (สังฆราชองค์ที่ 19 และมีสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันเป็นผู้ดูแล) ของคุณลุงทองดี หรรษคุณารมย์ จึงนับว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เพราะพระบรมธาตุคือธาตุชนิดเดียวที่เกิดจากพระสรีระขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง แต่โบราณมาพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มีปาฏิหาริย์ก็จะมีการบรรจุพระบรมธาตุลงในช่องพระเกศทั้งสิ้น การจัดให้มีพิธีอัญเชิญพระบรมธาตุมาบรรจุลงในพระเกศขององค์หลวงพ่อแจ้งจำลองของคณะสงฆ์วัดอรุณราชวรารามในครั้งนี้ จึงถือเป็นงานมหามงคลยิ่งของพี่น้องพุทธศาสนิกชนชาวไทยทุกคน และเป็นงานสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ของคณะสงฆ์วัดอรุณราชวราราม จึงขอเชิญชวนท่านพุทธศาสนิกชนชาวไทยทุกท่าน เข้าร่วมงานอันเป็นมหามงคลยิ่งแก่ชีวิตและครอบครั้วในครั้งนี้ ในวันอาทิตย์ 31 กรกฎาคม 2565 ณ วัดอรุณราชวราราม กำหนดการพิธีบรรจุพระบรมธาตุในพระเกศหลวงพ่อแจ้งจำลอง และพิธีเบิกเนตรสมโภช รูปหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง ณ มณฑลพิธี ลานพญายักษ์วัดแจ้งหน้าประตูซุ้มมงกุฏ วัดอรุณราชวราราม เวลา 16.09 น.​​​ พิธีบวงสรวงถวายเครื่องสังเวยเทพยาดา เวลา 17.09 น.​​​ พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี ​​​​เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ประธานในพิธี ​​​​จุดธูป เทียน บูชาพระรัตนตรัย ​​​​- ประธานในพิธีฝ่ายฆาราวาสถวายสักการะ ​​​​​​พระเดชพระคุณ พระพรหมวัชรเมธี ประธานในพิธี ​​​​- เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล/ประธานสงฆ์ให้ศีล ​​​​- ประธานฝ่ายฆาราวาสอัญเชิญพระบรมธาตุถวายประธานในพิธี (โดย ดร.เขมจุฑา สุวรรณจินดา ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 และกลุ่มเพื่อนอาจารย์ไก่ทิพย์จักร รับเป็นเจ้าภาพถวายผอบทองคำ จำนวน 2 ผอบ เพื่อบรรจุพระบรมธาตุในพระเกศหลวงพ่อแจ้งจำลอง) ​​​​- พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี อัญเชิญพระบรมธาตุ​​​​สรงน้ำและอัญเชิญพระบรมธาตุประดิษฐานในผอบทองคำ ​​​​- พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี ประกอบพิธีบรรจุพระบรมธาตุในพระเกศหลวงพ่อแจ้งจำลอง - พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา - พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี นำสำลีเช็ดดวงพระเนตรหลวงพ่อแจ้งจำลอง - พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี นำสำลีเช็ดดวงตารูปหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง ขนาดความสูง 2.50 เมตร - พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี ประกอบพิธีจุดเทียนชัย - พระสงฆ์เจริญคาถาจุดเทียนชัย - เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร - พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์มหาสมัยสูตร - พระครูภาวนาภัทรคุณ วัดพุทไธสวรรย์ เบิกเนตรรูปหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง ขนาดความสูง 29 นิ้ว ทั้งหมด - พระเถราจารย์ 5 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิต เวลา 19.09 ​น.​​​ พิธีดับเทียนชัย ​​​​- พระเถราจารย์อาวุโสในพิธี เจิมใบพลู และดับเทียนชัย ​​​​- พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญคาถาดับเทียนชัย ​​​​- พระเถราจารย์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ​​​​- ถวายเครื่องไทยธรรม ​​​​- พระสงฆ์ทั้งปวงอนุโมทนา ​​​​- เสร็จพิธี