ปะทะเดือด! น้องสาวป้องอดีตเจ้าอาวาสเป็นคนดี! ใจสลายนาทีพบซุกสีกา จวกอีกฝ่ายมีสามีแล้ว โวยเมีย “หมอปลา” ตีหัวพี่ กรณีข่าสะเทือนวงการสงฆ์ “หมอปลา มือปราบสัมภเวสี” นำสื่อมวลชนจำนวนมาก ล้อมกุฏิเจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก จ.สมุทรปราการ หลังมีการร้องเรียนว่ามีผู้หญิงเข้ามาในกุฏิ และพบผู้หญิงหลบซ่อนอยู่ใต้บันไดทางขึ้นชั้นสองของกุฏิ ล่าสุดถูกจับสึกไปแล้ว ขณะที่ประชาชนข้องใจว่าวงการสงฆ์ถึงจุดเสื่อมหรือตกต่ำหรืออย่างไร ทำไมคนล่าผีอย่างหมอปลา ต้องมาล่าพระด้วยในวันนี้ รายการโหนกระแสวันที่ 11 ก.พ. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “หมอปลา” มาพร้อม “อ.จตุรงค์ จงอาษา” นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา รวมทั้ง “ทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร” อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง หมอปลาอยู่ดีๆ ไปจับทำไม? หมอปลา : ชาวบ้านเขาร้องเรียนมา แต่ไม่กล้าออกตัว เพราะที่ที่เขาอยู่เป็นที่ของวัด เขากลัวว่าเดี๋ญวเขาจะไม่มีที่อยู่ ก็ต้องทำกันเป็นทีม ได้น้องอาร์มช่อง 3 นี่แหละให้คำปรึกษา วันนั้นผมอยู่นครสวรรค์ อาร์มนำหน้าผม 100 โล ผมก็บอกว่าอาร์มตอนนี้ชาวบ้านบอกว่ามีผู้หญิงเข้าไปในกุฎิเจ้าอาวาสแล้ว 4 โมงกว่าๆ ยังไม่ออกมา ถ้างั้นอาร์มนำหน้าผมไปก่อน เดี๋ยวผมจะตามไป ไปเจอพระซุกสีกาเอาไว้ แต่ชุดชั้นในอันนั้น สีกาบอกไม่ใช่ของเขา? หมอปลา : แล้วมันจะเป็นของใคร บอกก่อนว่าเราเจอชุดชั้นในก่อนเจอตัวสีกา พอเจอชุดชั้นในเมียผมจะไปจับก็บอกว่าอย่าจับ สักพักผมก็เรียกนักข่าวบอกว่าเจอชุดชั้นในแล้ว สักพักมีการถกขึ้นมา อ้าว เจอขา อยู่ที่เดียวกัน คุณรู้ใช่มั้ย ผู้หญิงคนนี้บอกว่าชุดชั้นในนี้ไม่ใช่ของเขา? หมอปลา : ถ้ารู้ว่าจะพูดแบบวันนี้นะ วันนั้นจะจับแก้ผ้าให้หมดเลย ยังจะแถอยู่นั้นแหละ เขาบอกว่าเอาของไปให้เป็นเอกสารที่ปริ๊นท์ไปให้ ไม่มีการทำผิดศีลธรรม ชุดชั้นในไม่ใช่ของเขา เหมือนใครโยนเขวี้ยงเข้ามา บอกไม่ถูก ตกใจ มีอะไรมาเกี่ยวเท้า ใส่ชุดชั้นในครบ ไม่อยากแจ้งความ ให้จบแค่นี้ ตอนนี้เครียดเหมือนประสาทจะกินแล้ว เขาบอกเขาใส่ชุดชั้นใน ตัวนั้นไม่ใช่ของเขา? หมอปลา : เขาไม่ได้ใส่อะไรเลย เอาผ้ามาคลุมไว้ ผมว่าเขาน่าจะเพิ่งสำเร็จภารกิจความรักใคร่ ทั้งที่มีเวลาเกือบชม.นะ เขาบอกเขากำลังส่งเอกสารกันอยู่ กำลังปริ้นท์แฟกซ์? หมอปลา : (หัวเราะ) ตัวอดีตเจ้าอาวาสบอกว่าเขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น เขาหนีพวกเงินกู้มา แต่นางคนนี้บอกเอาเอกสารไปส่ง สรุปใครพูดความจริง แต่ผมว่าเขาเอาหอยสดไปส่งแน่นอน เพราะเขามีปาร์ตี้หมูกระทะ ในหมูกระทะอาจมีหอยสดก็ได้ ส่วนเหล้าเต็มเลย เพิ่งดื่มไป ผมเรียกนักข่าวทุกคนมาดู ตอนนั้นทุกคนพุ่งไปที่ชั้นสอง เพราะคิดว่าอยู่ที่ชั้น 2 ไปเจอที่รัดผม เขาก็แถว่าเขาปวดหัว เขาบอกปู่ฤาษีกิน? หมอปลา : แต่ตัวอดีตพระเมาแอ๋เลยนะ ฤาษีกินเหรอ เขากินเต็มๆ เลย คันปากจะแย่ ถ้าพูดหยาบได้จะพูดเลย ตอนนี้จับสึกแล้ว เขาบอกมั้ยผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? หมอปลา : ทีแรกเขาบอกเป็นลูกหลานเขา เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น ตัวเขาก็ไม่ยอมรับ เขาบอกไม่มีอะไรกับสีกาเลย ผมก็เชื่อๆ ว่าไม่มีอะไรกับสีกาครั้งเดียว น่าจะมีหลายครั้ง เพราะภาพสีกาเข้ามาในวัดบ่อยมาก จะเข้ามาประมาณ 4 โมงเย็น ออกตี 4 หรือเข้าตี 4 ออก 4 โมงเย็น จะสลับแบบนี้ มันมีคลิปหลักฐาน ไม่ได้เข้ามาวันนี้วันเดียว แต่ตอนตี 4 บอกว่าทำไม่ได้ ต้องเป็นเวลาปกติ ก็ภาวนาให้ผู้หญิงคนนี้เกิดความต้องการประมาณ 4 โมงเย็นแล้วออกตี 4 แต่เขาบอกเขาเอาเอกสารไปให้นะ? หมอปลา : เอกสารอะไร โกหกอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้หมอปลาไม่ได้ไปจับเป็นรายแรก มีพระรูปนึงที่คุณไปตั้งกล้องแอบถ่าย? หมอปลา : วงการนี้มันเยอะมาก ล่าสุดวัดดังเขตปริมณฑล เป็นวัดดังมากๆ มีการร้องเรียนว่าตัวเจ้าอาวาสกับรองเจ้าอาวาสมีอะไรกัน ผมก็ให้เอาหลักฐานออกมา เขาบอกรอก่อนนะ ถ้าตกลงกันได้ก็ไม่ให้ มันมีการตกลงกันแล้ว สุดท้ายไม่ให้ แสดงว่าตกลงกันได้ พระพวกนี้มีเยอะมั้ย? หมอปลา : เยอะ มีร้องมาอีกแต่ช่วงนี้ต้องหยุด ต้องเช็กอะไรสักอย่าง ยังพูดออกอากาศไม่ได้ พระดังๆ พอมีเงิน ซื้อตำแหน่งได้แล้ว ถามว่าไปทำอะไรเขาได้ ลูกศิษย์ลูกหาก็เป็นพวกคนมีสี นักการเมือง ข้าราชการ จะทำอะไรเขาได้ เพราะกฎหมายพระมันไม่มีมา จริงๆ ต้องออกกฎหมายพระได้แล้ว ทำแบบนี้ต้องจับติดคุกติดตะราง ไม่ใช่ทำผิดแล้วย้ายวัด ห้ามบวชก็ไปบวชใหม่ ล่าสุดเช็กข่าวมา อดีตพระรูปนี้น่าจะไปอยู่อุบลฯ มีวัดตรงนั้นรองรับอยู่ แต่ญาติเขายังตามไม่เจอนะ? หมอปลา : โอ้ย เชื่อได้เหรอ สามคนนั้นเชื่อได้ที่ไหน ตอนนี้ไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เหรอ? จตุรงค์ : กฎหมายมี แต่เป็นกฎหมายที่ใช้คุ้มครองตัวเขา ต้องยอมรับในความบ้าบิ่นของหมอปลา แกกล้าบุกไปอย่างนั้น ถ้าวันก่อนถ้าสถานการณ์มันพลาด ไม่เจอที่คาดผม ไม่เจอยกทรง หรือขาผู้หญิงข้างใน หมอปลาจะหมาทันที แล้วเขาจะถืออำนาจอยู่ คืออำนาจพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ความเป็นเจ้าอาวาสมีอำนาจทุกอย่าง แล้วสถานการณ์จะกลับตาลปัตรเลย หมอปลาจะเป็นผู้ผิดเต็มๆ ถ้าหมอปลาไม่เจอหลักฐานทั้งคนและสิ่งของ แต่พอหลักฐานเจอ ตัวคนเจอ ทุกอย่างเปลี่ยน กฎหมายเปลี่ยน เพราะท่านถูกจับสึกปุ๊บ ท่านก็ไม่มีอำนาจตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์แล้ว ก็ไม่ใช่คนที่จะลุกขึ้นมาฟ้องหมอปลาได้อีกแล้ว อำนาจที่มีตามกฎหมาย จะสลายไปกับการลาสิกขาไปโดยปริยาย แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะจังหวัดเขาจะชื่นชมหมอปลา หรือหมอปลาไปทำงานล้วงลูกเขาหรือเปล่า นี่ผมก็ไม่ทราบ รวมถึงสำนักพุทธด้วยนะ ต้องเรียนตรงๆ ว่างบภาษีที่เราจ่ายให้สำนึกพุทธปีนึงหลายๆ ล้าน เอามาจ่ายให้หมอปลามั้ย หมอปลาทำงานได้เรื่องกว่าสำนักพุทธอีกนะ เพราะสำนักพุทธคนไปร้องเรียน อย่างหมอปลาพูดก็ไม่เวิร์ก ฝ่ายการเมืองไปร้องส.ส.ก็ไม่เวิร์ก ไปร้องเจ้าคณะอำเภอ ตำบล จังหวัด ภาคหล ก็ไม่เวิร์ค กลายเป็นว่ามาร้องหมอปลา หมอปลาอยู่เพชรบุรี ต้องข้ามฝั่งมาสมุทรปราการทำงาน ต้องมานั่งทบทวนเหมือนกันนะ หมอปลาไม่ได้รับภาษีประชาชนเลย แต่ทำงานลุล่วง ถ้าไม่มีผลงานเด่นชัดไม่ควรพึงกระทำ เพราะจะเข้าตัวหมอปลาเอง เขาจะร้องทุกข์กล่าวโทษหมอปลาได้ แต่พอหลักฐานมันชัดเขาหมดอำนาจทันที หมอปลาก็โชคดีไป ก็ต้องยอมรับว่าเป็นผลงานที่ชัดเจนของหมอปลาจริงๆ จริงๆ เรื่องราวเหล่านี้ต้องขึ้นอยู่กับสำนักพุทธ? จตุรงค์ : สำนักพุทธ เพียงแต่ว่าเราก็ต้องเข้าใจหัวอกชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านไม่เหลืออดจริงๆ เขาคงไม่ข้ามจังหวัดไปหาหมอปลาหรอก เขาก็ร้องสำนักพุทธจังหวัดก็ได้ นี่ลากไปถึงเพชรบุรี มีเหตุนะ แสดงว่าเขาพึ่งคนในจังหวัดไม่ได้แล้ว ก็ต้องไปทวนกันใหม่ ว่าเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด คุณปล่อยอะไรมาเป็นเจ้าอาวาสแบบนี้ เท่าที่ทราบมา อาจารย์บอกว่าตอนที่แต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปนี้ แล้วมีคนไม่เห็นด้วย พระไม่เห็นด้วย เตะก้านคอเจ้าคณะตำบล? จตุรงค์ : เรื่องมีอยู่ว่าปี 56 พระองค์นี้ถูกตั้งเป็นเจ้าอาวาส โดยคำสั่งเจ้าคณะตำบลบางหญ้าแพรก ระหว่างทำพิธีตั้งกันอยู่ พระลูกวัดอยู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นมา และเตะก้านคอผู้ตั้งพับเลย แกก็ไปตรวจร่างกายรพ.บางปะกอก เพื่อเอาไปยื่นให้พนักงานสอบสวนในการเอาผิดคนเตะ คนเตะเป็นพระ ชื่อพระทองทิพย์ นักข่าวเอาไมค์ไปถามว่าทำไมไปเตะเจ้าคณะตำบลอย่างนั้น เขาบอกโกรธ เครียด รู้สึกควบคุมสติไม่ได้ ก็น่าขันนะ เหมือนพระทองทิพย์เหมือนมีญาณ รู้ว่าอีก 9 ปีข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น รู้ว่าสมภารองค์นี้เป็นไง ก็เลยเตะคนแต่งตั้งซะคว่ำเลย พระทองทิพย์เจิมเจ้าคณะตำบลมาก่อน อาจไม่ชอบพระรูปนี้ เป็นไปได้มั้ย? จตุรงค์ : เป็นไปได้ คงเห็นภาพไม่ถูกตาไม่ถูกใจ เลยประเคนแข้งก้านคอเจ้าคณะตำบลไป ทิดเอก กรณีวงการสงฆ์ที่เสื่อมแบบนี้ พระดื่มเหล้า มีสัมพันธ์กับสีกา แก้คุณไสยผู้หญิง แก้ผ้า เคยได้ยินได้ฟังมามั้ย? ไพรวัลย์ : จริงๆ เราก็รู้พร้อมที่ทุกๆ คนเห็นนั่นแหละ เวลามีสื่อไปทำข่าวแล้วเป็นประเด็นเราก็เห็น แต่กรณีนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาความไม่ดีของพระรูปนั้น ส่วนตัวผมว่ามีเบื้องหลังอะไรมากกว่านี้ เช่น วัดมีผลประโยชน์เยอะ เจ้าอาวาสคุมผลประโยชน์ทั้งหมด เรื่องที่ดินเรื่องอะไร พอคุมผลประโยชน์เยอะ พระรู้สึกว่าชาวบ้านต้องยอม ชาวบ้านอยู่ได้เพราะเจ้าอาวาสอนุเคราะห์ให้ความเมตตา เจ้าอาวาสก็ไม่ต้องแคร์ชาวบ้านเยอะ ก็เลยเกิดอะไรลักษณะแปลกๆ แบบนี้ ถ้าเมื่อไหร่ที่พระอยู่ในฐานะที่ไม่ต้องฟังชาวบ้าน หรือชาวบ้านไม่กล้าหือ ก็จะออกแนวนี้ เป็นนักเลง อันธพาล วัดนึงเจ้าอาวาสจะคุมเงินทั้งหมดเหรอ? ไพรวัลย์ : มันแล้วแต่บางวัดว่าเขาวางระบบบริหารจัดการยังไง ถ้าบางวัดมีคณะกรรมการผู้นำชุมชนที่ร่วมกันดูแล บริหารวัดก็ไม่ปล่อยให้เป็นอำนาจเจ้าอาวาสอย่างเดียว วัดแบบนี้จะไม่ค่อยมีปัญหา เจ้าอาวาสไม่ได้ดูแลเงินกองกลาง มีแค่เงินส่วนตัว แต่ถ้าวัดไหนที่ดังเพราะเจ้าอาวาส หรือเจ้าอาวาสมีอิทธิพล มีสมณศักดิ์ ชาวบ้านให้ความเกรงใจ ก็จะเกิดแบบนี้ วัดบางหญ้าแพรก ชาวบ้านบอกว่าสึกออกไปก็ดีแล้ว เพราะเหมือนคุมทุกอย่างเลย แม้กระทั่งงานศพ ที่มีการจ้างคนเข้ามาดูแลงานศพก็ไม่ให้ตังค์เขา ให้รับเฉพาะเจ้าภาพงานศพให้ แล้วเงินที่ได้จากค่าศาลาไปไหนหมด? ไพรวัลย์ : ไม่รู้สิ หลวงพ่อเป็นคนดูแล ถ้าหลวงพ่อดูแลก็เข้าหลวงพ่อหมด พอสึกไปแล้ว ต้องมาบริหารจัดการ? จตุรงค์ : ตอนนี้ผมเห็นข่าวเจ้าคณะตำบลเมตตาตั้งรักษาการรูปใหม่ ผมว่าเรื่องพวกนี้เราโทษแต่คนไม่ได้อย่างเดียว ต่อให้คนกากยังไง ถ้าเรามีระบบที่ดี มันก็ทำให้คนกากได้น้อยลงนะ แต่ถ้ามาทั้งคนกาก ระบบกาก ก็พาลกากทั้งชุด ต้องมานั่งทบทวนตั้งแต่เจ้าคณะตำบล อำเภอ จังหวัด ถามว่าคุณมีนโยบายยังไง ถึงปล่อยให้เป็นแบบนี้ สำนักพุทธจังหวัดทำงานร่วมมือกับเจ้าคณะปกครองเขามั้ย ในการดูแลแบบนี้ แล้วผมว่ามหาเถรสมาคมก็พูดชัดนะว่าการบริหารจัดการเงินควรทำยังไง แล้วพอออกไปปุบปับคุณรู้มั้ยว่าเส้นทางการเงินไปยังไง เงินไปไหน มันก็ต้องน่าคิดเหมือนกัน รู้สึกยังไงบ้าง วันนี้คนรุ่นใหม่เขาเสื่อมศรัทธากับวงการผ้าเหลือง เขารู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ถ้าออกไปสังเกต คนออกมาตักบาตน้องมาก เพราะส่วนนึงเขาไม่เชื่อเพราะมีพระแบบนี้แหละที่ทำให้วงการมันเสื่อมลง? ไพรวัลย์ : ไม่อยากให้คนพุทธส่วนใหญ่ทำแค่บุญ อยากให้คนพุทธส่วนใหญ่ทำหน้าที่ด้วย อย่างที่อ.จตุรงค์ทำ หมอปลาทำ อย่างนี้เขาเรียกว่าทำหน้าที่ แต่คนส่วนใหญ่ไปวัดเพื่อความสบายใจ ไปมูกันบ้าง ไปบน ก็ทำแต่บุญ พอทำบุญเสร็จก็ออก ไม่คิดว่าเราต้องมีส่วนรับผิดชอบอะไรกับวัดกับพระ แต่อย่างอ.จตุรงค์คอยตรวจสอบ อาจารย์ด่าพระนะ แต่ถึงเวลาก็ไปปิ้งหมู ปิ้งเนื้อให้พระฉันท์ นี่เรียกว่าทำหน้าที่ อยู่ในสายกับ “นัยนา” ญาติอดีตเจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก เจ้าอาวาสเป็นพี่ชาย? นัยนา : จ๊ะ ตอนนี้พี่ชายอยู่ที่ไหน? นัยนา : ไม่รู้เลย เขาติดต่อกลับมามั้ย? นัยนา : ติดต่อไม่ได้เลย โทรศัพท์เขาก็หาย เขาไปแต่ตัว จะไปติดต่อตรงไหน เงินทองก็ไม่มีไป วันนั้นที่เขามีการไปจับผิดเจ้าอาวาสพี่ชายป้า ป้าอยู่ในเหตุการณ์มั้ย? นัยนา : อยู่ ตกใจสิ ไม่น่าเป็นไปได้ พอเจอผู้หญิงๆ ป้ารู้สึกยังไง? นัยนา : รู้สึกใจแตกสลาย มันไม่น่าทำ เพราะคนมันรู้จักกัน ผู้หญิงอ่ะกินข้าวหม้อเดียวกัน ผู้หญิงเป็นใคร? นัยนา : นับถือเหมือนลูกหลานนั่นแหละ เรียกหลวงพี่ว่าหลวงพ่อ เขาไม่ได้ขายมะม่วง เขามาประเดี๋ยวประด๋าว ฉันสิเป็นคนขายมะม่วง วันนั้นเขาเอาของถวาย แล้วก็กลับ แล้วไปเจอตรงนั้นได้ไง ที่กุฏิ? นัยนา : อันนั้นป้าไม่รู้ ป้ารู้ตอน 3 ทุ่มแล้ว เขาบอกเจ้าอาวาสโดนวางยาจริงมั้ย? นัยนา : น่าจะจริง ข้างวัดไม่มีใครชอบเขาเลย ตัดมือตัดขาเขาหมด เพราะอะไร เจ้าอาวาสเป็นคนไม่ดีเหรอ? นัยนา : เขาเป็นคนดี ไม่ได้เข้าข้างพี่ชายนะ ฉันก็พูดไปตามจริงนี่แหละ พี่ชายฉันไม่เคยมีอะไร แต่คนไปทำเขาเอง คนเลวคือใคร หมอปลาใช่มั้ย? นัยนา : ไม่รู้ดีไม่ดี เมียหมอปลาตีหัวพี่ฉัน จริงเหรอ เมียไปตีหัว? นัยนา : เอาโทรศัพท์หรืออะไรไม่รู้ไปตีหัวพี่ฉัน ยังโนอยู่เลย มันเกิดอะไรขึ้น? นัยนา : ก็บอกว่าอย่าเพิ่งเข้ามา เขาก็กรูเข้ามากัน ก็บอกว่าเดี๋ยวก็ต้องเจอข้างในมีอะไรก็ต้องเจอ อย่าเพิ่งเข้ามา ฉันเป็นพี่น้องก็ต้องปกป้องธรรมดาจริงมั้ย แต่เขาบอกป้าไปดึงขาเขาก่อน? นัยนา : ไม่ได้ดึง ฉันจะไปดึงขาเขาได้ยังไง ฉันได้แต่ห้ามว่าอย่ากรูเข้ามา เขาบอกพี่สาวอีกคนเป็นคนดึง? นัยนา : ไม่มีใครดึงหรอก มันเตะหลวงพี่ที่เขากั้นกระเบื้องไว้ มันเตะกระเบื้องอย่ามาพูด ใครจะก้มไปดึงขา ไม่มีหรอก วันนี้ป้าจะเอายังไงดี ตอนนี้ยังเชื่ออยู่มั้ยว่าพี่ชายป้าไม่น่าจะเสพสีกา? นัยนา : ไม่มีหรอก ไม่น่าเชื่อ ฉันไม่เชื่อเลย ชุดชั้นในที่ตกอยู่ของใคร? นัยนา : ไม่รู้ ไม่ใช่ของมันหรอก ฉันเข้าไปตอนจับได้ ฉันไปจับยกทรงมัน ยกทรงมันใส่อยู่ แล้วจะเป็นยกทรงมันได้ยังไงฉันก็ไม่รู้ เป็นไปได้มั้ย พี่ชายป้าอาจเอาน้ำแข็งประคบตาเวลาปวดหัว? นัยนา : ไม่มีหรอก ขนาดยางรัดหัวเขายังใส่เลย? นัยนา : ยางนั่นเรื่องปกติ คาดผมได้ แต่ยกทรงมันไม่ใช่หรอก แล้วหายปวดหัวจริงมั้ย? นัยนา : ไม่ใช่หัวฉัน ฉันจะไปรู้ได้ไง ถามฉันแบบนี้จะรู้ได้ไง ไม่ใช่หัวฉัน เราจะเอายังไงต่อไป อายมั้ย มีเหตุแบบนี้? นัยนา : ฉันก็ไม่อายหรอก ถ้าอีผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักกันเลยก็มีสิทธิ์อาย แต่อีนี่มันกินข้าวหม้อเดียวกัน กินแกงถ้วยเดียวกัน ฉันถึงไม่อาย จะอายเรื่องอะไร ไม่กลัวเป็นโควิดเหรอ? นัยนา : ไม่กลัว เป็นแล้วก็ตาย ไม่เป็นก็ตาย ไม่ต้องไปกลัวมันหรอก ผู้หญิงคนนี้มีผัวมั้ย? นัยนา : มี มีลูก 3 คน ผัวเขาไม่ได้ดูข่าวเหรอ เขาก็ไปออกสื่อแล้วไง มาทำข่าวไม่ดูข่าว แล้วมาทำข่าวเพื่ออะไร ฉันหยอกนะ ฉันห่าม ชอบคนจริงเหมือนกัน อยากบอกอะไรหมอปลา? นัยนา : ให้มันถามมาดิ จะได้ตอบมัน หมอปลา : ป้าจะแถไปถึงไหน นัยนา : ฉันไม่แถ หมอปลาจะแถไปถึงไหน เมียหมอปลามาตีหัวพี่ฉัน หมอปลา : เรื่องยกทรงจะยังแถอีกเหรอป้า นัยนา : ก็ไปสัมภาษณ์เขาแล้ว ไม่ใช่ยกทรงเขาไม่ใช่เหรอ หมอปลา : โอ้ย ภาพติดกล้องเลยป้า ไม่มีใครไปโยนหรอก นัยนา : มีการกลั่นแกล้งก็ได้ หมอปลา : แนะนำป้านะกินน้ำเยอะๆ หายใจลึกๆ นัยนา : ไม่ต้องมาแนะนำหรอก ถามมาเลย ฉันจะตอบให้ หมอปลา : ป้ารู้จักคำว่ายางอายมั้ยป้า นัยนา : ไม่มีหรอก เพราะฉันไม่ผิด ฉันจะมียางอายเรื่องอะไร ถ้าเป็นพี่ชายที่สึกล่ะ? นัยนา : ก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับฉัน ป้ากำลังเดือดมั้ย? นัยนา : ไม่เดือดหรอก แต่มีอารมณ์นิดๆ ให้มันจบแค่นี้ ต้นเหตุไม่ได้อยู่ตรงนี้ แล้วปลายเหตุก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ป้าเป็นแค่พี่น้อง พี่น้องเป็นอะไรก็ต้องปกป้อง จริงมั้ยนักข่าว ป้ารู้จักทิดไพรวัลย์มั้ย? นัยนา : ไม่รู้หรอก ไม่รู้จักใครเลย ป้าอยู่แต่บ้าน ต้นเหตุอยู่ตรงโน้น มาถามตรงนี้ก็ตอบไม่ได้ แต่ถามว่าอีผู้หญิงมันรู้จักอยู่ ถ้าไม่รู้จักพอมียางอาย แต่นี่กินข้าวหม้อเดียวกันอยู่ ยางอายฉันไม่มีหรอก ผู้หญิงคนนี้เขาทำงานอะไร? นัยนา : ฉันก็ไม่รู้ นักข่าวไปสัมภาษณ์เขาแล้ว ไม่ไปดูล่ะ เขามาหาฉันถึงบ้าน ก็ได้กินข้าวหม้อเดียวกัน เขาเป็นพี่สะใภ้ป้าหรือเปล่า? นัยนา : ไม่เป็น เขาเป็นเหมือนลูกหลาน เขาเรียกหลวงพี่ว่าหลวงพ่อ ฉันรู้แค่นี้เอง แต่เรื่องอื่นฉันไม่รู้ ป้ามีพี่น้องมั้ย? นัยนา : พี่น้อง 7 คน วันนั้นด่านักข่าวมั้ย? นัยนา : ฉันยืนบังเฉยๆ แต่พี่สาวฉันด่า แค่นั้นเอง เห็นว่าไปตบหัวนักข่าวด้วย? นัยนา : คนนั้นไม่ใช่พี่น้องฉันหรอก ถ้าไปตบหัวนักข่าวก็เกินไปแล้ว ป้าด่าเก่งมั้ย? นัยนา : เก่ง ใครด่าฉัน ฉันก็ด่า ฉันไม่เอาไว้ วันนี้จะเอายังไงกับพี่ชายป้า เห็นว่าหายตัวไปเลย? นัยนา : ยังติดต่อไม่ได้เลย ตอนเขาแต่งตั้งพี่ชายป้าเป็นเจ้าอาวาส ปี 57 เจ้าคณะตำบลเป็นคนตั้ง ตอนแรกให้รักษาก่อน มีพระรูปนึงไม่พอใจ เตะก้านคอเจ้าคณะตำบล ไม่พอใจที่ตั้งพี่ชายป้าเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ป้ารู้เรื่องนี้มั้ย? นัยนา : รู้ เขาไม่พอใจว่าเจ้าคณะตำบลตั้งองค์นี้ขึ้นมา เขาเลยเตะคอเจ้าคณะตำบล เขารู้หรือเปล่าว่าพี่ชายป้ายังละไม่ได้? นัยนา : มีอะไรที่ละไม่ได้ล่ะ แต่ก่อนเขาไม่มี ตอนนี้เขามี? นัยนา : ก็ไม่รู้อีกแหละ ผู้หญิงคนนี้ก็อย่างที่บอกกินข้าวหม้อเดียวกัน เหมือนเป็นพี่น้องกัน ป้ารู้สึกยังไง อยู่ดีๆ พี่ชายป้าเจอแบบนี้? นัยนา : รู้สึกเสียใจมาก เหมือนใจแตกสลาย พี่ชายป้าบอกว่าเขาไม่ได้ทำ แต่สุดท้ายไปเจอผู้หญิงซ่อนอยู่? นัยนา : เขาคงไม่ได้ทำหรอก เด็กคนนี้มันขึ้นๆ ลงๆ ก็เรียกหลวงพี่เป็นพ่อ เหตุการณ์มายังไงได้ไงก็ไม่รู้ เขาเรียกพ่อ เขาเรียกป๋าหรือเปล่า? นัยนา : เขาเรียกพ่อสิ อย่ามาเพี้ยนสิ จะเอาข่าวก็อย่ามาเพี้ยน เรียกหลวงป๋าไม่มีหรอก คนที่เรียกพ่อมึงไง คนนี้มีผัวแล้ว ผัวเขาโกรธมั้ย? นัยนา : ผัวเขาไปออกสื่อเห็นโกรธเปล่าล่ะ ดูสื่อเปล่าลูก อ่านไปแล้วมาถามป้าทำไมล่ะ เขามีลูกมีผัว ป้ามีผัวมั้ย? นัยนา : ไม่มีหรอก หรือจะเอาป้าก็ได้ พร้อมเสมอ ป้าอำมหิตกับผมมาก ทิดอยากพูดอะไรกับป้า? ไพรวัลย์ : ผมปวดหัวมากเลย ตอนนี้ทุกคนเอาผ้าคาดหัวคาดในสตูฯ? นัยนา : ท่านคงสติแตก พูดง่ายๆ เพราะจี้กันเหลือเกิน เป็นฉันก็สติแตก แต่ก็น่าจะจบแล้วนะ เพราะพี่ฉันก็สึกไปแล้ว แล้วจะมาหาคุ้ยเรื่องอะไรอีก ก็ไปบ้านผู้หญิงเขา ไปหาลูกหาผัวเขาโน่น ว่าทำไมมาทำแบบนี้ หลังเกิดเรื่องได้คุยกับผู้หญิงมั้ย? นัยนา : ไม่ได้คุยเลย โทรไปมันยังไม่รับเลย ทำไมไม่ไปคุยที่บ้าน? นัยนา : ให้ผู้หญิงคนนั้นออกมาพูดบ้างสิ ได้เปล่าล่ะ เขาเขิน เขาอาย? นัยนา : โอ้ย อย่างนี้ยังอายอีกเหรอ ตอนนั้นทำไมไม่อาย ป้าจะช่วยพี่ชาย หรือซ้ำพี่ชาย? นัยนา : ฉันพูดตรงๆ ซ้ำหรือซ้ำก็ไม่รู้ มาทำให้พระสึกได้ ทำไมไม่อาย แค่นี้จะมาอายเหรอ พระอยู่ดีๆ เดินไปหาเขา แล้วมีเลศนัยหรือเปล่า มาสี่โมง หมอปลามาสี่โมง เอาความยุติธรรมกันบ้าง หมอปลา : ผมเข้าไปสามทุ่มแล้วป้า ผมอยู่นครสวรรค์ กินข้าวหรือยัง? นัยนา : ยัง เริ่มโมโหแล้วเนี่ย ถามเยอะ หลวงพ่อมีความดีอะไรบ้างมั้ย ถามสิ จะตอบให้ดู หลังวัดเป็นยังไง ถามสิ เวลาทำโดมประชาชนหลังวัดก็ด่ากัน พอทำเสร็จ เอารถไปจอด ไม่ให้จอดก็ด่า ทำเมรุก็ด่า ความดีมีบ้างมั้ย เขาเก็บเงินให้วัด จะเอาฟรีๆ กันหมดเลยหรือไง ตังค์ไปไหน? นัยนา : ตังค์อยู่ที่กรรมการ ถามกรรมการเด่ พี่ชายเคยมีเมียมาก่อนบวชมั้ย? นัยนา : มีเมีย มีลูก เขามีเมียคนเดียว ตอนนี้อยากให้เขามาพูดมั้ย? นัยนา : ก็ไม่เจอตัวเขา เขาหายไปไหน ทำให้พี่ชายฉันหายไปไหนเนี่ย เดี๋ยวส่งของไปให้ป้า ชอบมาก? นัยนา : อะไร อย่าส่งลูกปืนมานะ ว่างๆ เจอกันหน่อยนะ? นัยนา : ได้ 24 ชม. ว่างตลอด ผัวก็ไม่มี มาวันไหนบอก จะเปิดประตูรอ หมอปลาอยากถามอะไร? หมอปลา : ตามตัวถลอกมั่งยัง แถเก่ง นัยนา : ใครทำอะไรฉันล่ะ แถไหนล่ะ หมอปลาอย่ามาหาเรื่อง ขอร้อง ถามกันดีๆ ฉันไม่มีวิชาอาคมอะไร วันนี้โกรธแค้นหมอปลามั้ย? นัยนา : ไม่โกรธหรอก เขาทำตามหน้าที่จะโกรธอะไรเขาล่ะ แต่ที่ติดใจนิดเดียว เมียหมอปลาเอาโทรศัพท์หรืออะไรโขกหัวพี่ฉัน ไปดูในภาพสิ ออกสื่อขอโทษบ้างสิ ฟ้าขอโทษเขาหน่อยสิ ไปตีหัวเขาจริงใช่มั้ย? น้ำฟ้า : จริงค่ะ เพราะเขามาผลักหมอปลา หนูก็ใส่เลย ถีบด้วย หนูขอโทษนะคะ นัยนา : เรื่องก็จบแค่นี้ ไม่ถามพฤติกรรมหลังวัดบ้างเหรอ เป็นยังไง มันคืออะไร? นัยนา : มันให้ข่าวไป แล้วความเหี้.. ของมันขายม้า หมอปลาไม่ไปจับมั่งล่ะ พฤติกรรมหลังวัดคือมีคนไปเสพม้าหลังวัดเหรอ? นัยนา : นั่นแหละ เป็นบางส่วน คนดีเขาก็มี เห็นว่าพี่ชายป้าไปต่อยชาวบ้านฟันหัก จริงมั้ย? นัยนา : ใคร ไอ้เล็กเหรอ เขาดูดยาม้า ตร.จับหลายที่แล้ว เขาทุบมณฑป แล้วเขาตีมัน ความเหี้.. ของมันไม่พูดบ้างล่ะ เขาก็ปกป้องวัด เอาพระมาบอกว่าใจร้าย แต่คนทำดีใครเขาจะไปทำ พระในวัดก็ไม่ใช่ว่าดีทุกตัว บอกให้ ฉันก็ไม่เคยไปวุ่นวายกับวัด เงินวัดก็ไม่เคยเห็น ถ้าบอกว่าเอาเงินวัดมาให้พี่น้อง ตัดไปได้เลยคำนี้ มาดูบ้านสิ จะพังแล้ว ส้วมจะขี้ยังไม่มีเลย เขาบอกว่าเจ้าอาวาสเวลาสร้างเมรุ เอาสัมปทานสร้างเมรุให้หลานป้าทำ? นัยนา : ไม่มีหรอก ทำไมไม่ถามพวกก่อสร้างเองว่าเขาเอามาจากไหน ไม่ใช่ญาติเลยสักนิดนึง รับเหมาก่อสร้างมาจากไหน ถามดูสิ พระที่สึกไปเอามาจากไหน ถามเขาดู แต่ไม่ได้มาจากตรงนี้แน่นอน ลูกหลานก็ไม่ใช่ จะวางแล้ว? นัยนา : พอแล้วเหรอ เลือดกำลังร้อนเลย บอกผู้หญิงที่ทำให้ออกสื่อมาบ้าง ให้ขอโทษบ้าง แต่ขอโทษตอนนี้ก็ไม่มีอะไรขึ้นมาแล้ว แต่ให้พูดสำนึกออกข่าวบ้าง ว่าคนชื่อพี่ปุ๊ยเขาว่า ให้พูดออกข่าวมาบ้าง อีตัวกระทำมันคืออะไร ป้าตามไปถามสิ? นัยนา : ทำไปเพื่ออะไร อีตัวผู้หญิงที่มันทำ พี่ชายป้าก็ดื่มเหล้า? นัยนา : ไม่มีหรอก คนใส่ร้ายเขาเอง พี่ชายฉันไม่กินเหล้าแน่นอน โอ้โห พูดกันไปเถอะ ขยะตรงนั้น ตอนไปก็มีสักขวด ขวดเพิ่งมาเมื่อวานนี้เอง มีคนกลั่นแกล้ง ข้างวัดนั่นแหละ แต่ไม่รู้ใคร ส่วนสปายเขาไม่กินหรอก ไม่ใช่ของผู้หญิงด้วย ผู้หญิงก็ไม่กิน แต่ไม่รู้หรอก มันอยู่ตรงนั้น ฉันยืนยัน ตัดคอได้ หมอปลาดูสิ ว่าพี่ชายฉันเป็นไง หมอปลา : พี่เมา ขี้เอาป้า นัยนา : กูเห็นขี้เอาทุกคนแหละอย่ามา ถ้าไม่ขี้เอาจะมีเมียเหรอ หมอปลา : แต่อดีตพระขี้เอากว่าผมอีก นัยนา : โหย พูดไปเถอะไอ้หมอปลา ตัวร้ายเลย หมอปลา : (หัวเราะ) ป้าตั้งสติ นัยนา : อย่ามาใส่ร้ายพี่ฉัน จบแค่นี้ก็ให้จบไป หิวมั้ย? นัยนา : ถ้ามาเอาเสื้อมาให้ด้วย เดี๋ยวแวะไปหา? นัยนา : มาเลย รอรับเสมอ ป้าไม่มีผัวนะ? นัยนา : ไม่มี จะเอาเป็นผัวก็ได้ หมอปลาขี้เอาเปล่าล่ะ เอาได้เลย จริงๆ จะคุยเรื่องชำแหละวงการสงฆ์ แต่ไม่ได้คุยอะไรเลย? หมอปลา : เดี๋ยวมีอีก แต่ต้องหยุดก่อน เพราะเหนื่อย เสี่ยงมาก อาจารย์ก็เคยโดนนี่ โดนดักตีเรื่องเครื่องราง จตุรงค์ : โดนตักดีปี 63 ไปร้องดีเอสไอเรื่องพวกนี้ก็โดนตีกลับมา ดีแล้วหมอปลาถนอมตัวบ้าง หมอปลา : เจ็บฟรี จับผู้ร้ายไม่ได้ มุมทิดไพรวัลย์ เรื่องนี้อยากให้เปลี่ยนแปลงยังไงบ้างในวงการสงฆ์ อยากไปร้องอะไรมั้ย? ไพรวัลย์ : ระบบราชการทำงานช้า ถ้าระบบราชการดี ทำงานแบบที่รวดเร็ว หมอปลาก็ไม่ต้องลงพื้นที่หรอก ที่ทราบข่าวเขาร้องไปหลายที่แต่เรื่องก็เงียบ ไปร้องเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะตำบลก็เป็นคนตั้งมา มันก็เอื้อมา ตรวจสอบยาก ถ้าไม่มีหลักฐาน ไม่มีสื่อไป ก็จับไม่ได้ วันนี้ต้องฝากความเข้มแข็งไว้ในภาคประชาชนเป็นหูเป็นตา เห็นพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล ถ้าไม่ดีก็ต้องเอาออก รักษาวัดไว้ไม่ใช่รักษาพระ เพราะศาสนาคือของส่วนรวม แต่พระรูปนึงไป รูปใหม่ก็มาแทน แต่ถ้ารักษาสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้ มันก็จะไปทั้งหมด วัดก็เสีย ชุมชนก็เสีย ต้องรักษาวัด ไม่ใช่รักษาพระ อาจารย์ล่ะ มุมที่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงวงการสงฆ์? จตุรงค์ : ที่คุณหนุ่มพูดก็น่าคิด เรื่องกฎหมายจะปรับเปลี่ยนอะไรมั้ย สมัยยุคคาบเกี่ยวระหว่างรัฐบาลประยุทธ์ 1 และประยุทธ 2 เราเคยมีการทำร่างพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่ แต่ด้วยกลไกทางการเมืองหรืออะไรก็แล้วแต่ มันไม่ผ่าน ไม่มีกฎหมายใหม่ๆ อัปเดตให้เหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน สำหรับผมคนไม่ดี ก็ยังแก้ไขได้ จะให้ดีกว่านี้ ระบบต้องดีด้วย ฝากไว้เท่านี้ แล้วภาคประชาชนก็ต้องออกมา ถ้าระบบไม่สามารถจัดการตัวมันเองได้ สำนักพุทธช้าไปมั้ย? จตุรงค์ : ช้าไปและไม่ทำงาน เป็นเรื่องน่าคิดว่าสำนักพุทธสมุทรปราการทำอะไรกันอยู่ ทิดไพรวัลย์ : ช้า และทำงานไม่มีประสิทธิภาพ โยนเรื่องตลอด เขาไม่ค่อยรับเคสอะไรแบบนี้หรอก เขาจะอ้างว่าให้ไปแจ้งเจ้าคณะตำบลสิ เป็นอำนาจหน้าที่ท่าน โยนกันไปโยนกันมา ถ้าไม่มีหลักฐานออกมาในโซเชียล ไม่มีทางทำอะไรได้ ยิ่งเจอตอใหญ่ๆ ยิ่งเงียบกริบ เจ้าอาวาสยังถือว่าระดับเล็กๆ ระดับเจ้าคณะผู้ปกครองสูงกว่านี้ก็มี ผมก็รู้ อยากให้ปรับเปลี่ยนตรงนี้ หมอปลาว่าไง? หมอปลา : ฝากถึงคนชื่อต้อย เอาชุดชั้นในมาพิสูจน์กันกลางรายการโหนกระแสมั้ย กล้ามั้ย ติดใจเรื่องนี้มาก ที่บอกว่าไม่ใช่ของเขา ตอแหลชัดเจน คนดีที่ไหนจะไปเอากับพระ แล้วเข้าหลายครั้ง มันต่างกันมากระหว่างจับสัมภเวสีกับมาจับพระ? หมอปลา : เสี่ยงกับลูกศิษย์เขา กว่าจะเข้าไปได้ อย่างวัดดังๆ ใหญ่ๆ ยากมาก มีหลายชั้น มีหลายขั้นตอน แล้วหมอปลาหยุดจะทำยังไง? ไพรวัลย์ : ให้อ.จตุรงค์ทำหน้าที่แทน จตุรงค์ : ผมถือค้อนไม่ไหวครับ ไพรวัลย์ : เจ้าอาวาสวัดนั้นไม่มี ไปบวชวัดนั้นเลย แล้วไปฟื้นฟู จตุรงค์ : เขามีแล้ว มีพระรักษาการณ์แล้ว อย่าหางานให้ผม ไม่เอาหรอก กลัวป้า (หัวเราะ) เช้าๆ มาเอาน้ำร้อนมาใส่ตายเลย