มท.2 แจ้งขอให้รออีก 4 เดือนหรือ 120 วันชาวบ้านจะได้เฮ ปปส.ได้มีมติปลดกัญชาออกจากยาเสพติดแล้ว แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า ถ้าสกัดแล้วมีค่าสาร THC (Tetrahydrocannabinol) เกินร้อยละ 0.2 หรือเกิน 0.2% ถือเป็นยาเสพติด ต้องขออนุญาต แต่ถ้าไม่ถึงประชาชนจะสามารถเข้าถึงได้เลย วันที่ 30 ม.ค.65 ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์และแปรรูปพืชสมุนไพร ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรือนกัญชา พร้อมลงมือตัดช่อดอกกัญชาช่อแรกของจ.บึงกาฬ โดยมีนายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ และร่วมตัดช่อดอกกัญชาภายในโรงเรือน ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทยกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาทำกิจกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าถึงกัญชา เนื่องมาจากช่วงแรก กัญชายังถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมาน ซึ่งในแง่ของประโยชน์สามารถใช้ได้ในทางการแพทย์ จึงได้มีการขับเคลื่อนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาได้อย่างเสรี นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงผลักดันให้เกิดกฎหมายที่ทำให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้เพื่อใช้ในทางการแพทย์ โดยมีการทำ MOU และตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ หรือสถาบันทางการศึกษา จึงมีหลายจังหวัดที่ประชาชนสามารถเข้าถึงการปลูกกัญชาแล้ว เช่น ที่ จ.บึงกาฬ ก็เป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งวันนี้ได้มีโอกาสมาตัดช่อดอกกัญชาครั้งแรกของจ.บึงกาฬ เพื่อนำไปสู่กระบวนการทางการแพทย์ต่อไป โดยปัจจุบันได้มีการยกเลิก พ.ร.บ.กัญชา พ.ศ.2522 ที่ระบุว่า กัญชาเป็นยาเสพติดแล้ว แต่ยังติดเงื่อนไขอยู่ในประกาศของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้ทราบว่า ปปส.ได้มีมติแล้ว ที่จะปลดกัญชาออกจากยาเสพติด แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า ถ้าสกัดแล้วมีค่า THC (Tetrahydrocannabinol) เกิน 0.2% ถือเป็นยาเสพติด ต้องขออนุญาต แต่ถ้าไม่ถึงประชาชนจะสามารถเข้าถึงได้เลย โดยการขอจดแจ้งการปลูก แต่จะมีผลหลังจากประกาศแล้วประมาณ 120 วัน ซึ่งขณะนี้ขอให้ประชาชนรอความชัดเจนก่อน และเมื่อถึงวันนั้น มั่นใจว่าการเข้าถึงกัญชาทางเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ประชาชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการสร้างมูลเพิ่มจากปลูกพืชกัญชา