สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการอังกฤษ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้ยกเลิกการบังคับใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน ระดับแผนบี (Plan B) แล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ ส่งผลให้ประชาชนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สถานที่ปิด และไม่ต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรการเข้มงวดระดับแผนบีดังกล่าว รัฐบาลอังกฤษ ได้เริ่มประกาศบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งแผนบีข้างต้น กำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ปิด และต้องแสดงหลักฐานเอกสารเป็นใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ครบโดสก่อนเข้าไปในสถานที่ต่างๆ เช่น บาร์ ไนต์คลับ รวมถึงสถานที่สาธารณะ ได้แก่ สนามฟุตบอล เป็นต้น โดยนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลสังคมแห่งอังกฤษ กล่าวว่า จากการที่มีการฉีดวัคซีนและการตรวจหาเชื้อ ทำให้อังกฤษมีการป้องกันโรคโควิด-19 ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคยุโรป รายงานข่าวเผยว่า การยกเลิกมาตรการเข้มงวดดังกล่าว มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษ ยังคงลุกลามอย่างรุนแรง และพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยในรอบ 24 ชั่วโมงของวันพุธที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จำนวน 102,292 ราย ทำให้มีจำนวนสะสมของผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ที่ 16,149,319 ราย มากเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนรวม 154,802 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 12,781,312 ราย