วันที่ 26 มกราคม 2565 นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เครือไทยโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 ได้มีมติเห็นชอบแผนการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของอาคเนย์ประกันภัย ซึ่งเป็นการใช้สิทธิขอเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยโดยสมัครใจและส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจต่อนายทะเบียนตามมาตรา 57และ 57/1 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่การแก้ไขเพิ่มเติม) เนื่องจากทางเลือกอื่นๆ เช่น การเพิ่มทุนหรือขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อใช้ในกิจการของอาคเนย์ประกันภัยอาจจะไม่สามารถทำได้ รวมถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเองก็ได้ให้การสนับสนุนด้านการเงินไปแล้วเกือบ 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยพยุงธุรกิจประกันวินาศภัยของกลุ่มบริษัทฯ บอร์ดได้พิจารณาผลกระทบในกรณีดำเนินกิจการของอาคเนย์ประกันภัยต่อไปซึ่งย่อมจะนำไปสู่การมีฐานะหรือการดำเนินงานที่ขาดความเหมาะสมจะประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและถูกเพิกถอนใบอนุญาต เปรียบเทียบกับกรณีขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจประกันภัยโดยสมัครใจตามขั้นตอนของกฎหมายประกันวินาศภัยแล้วเห็นว่ามีข้อพิจารณาที่สำคัญหลายประการที่แสดงให้เห็นว่าการขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจประกันภัยเป็นทางเลือกที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) พิจารณาให้กองทุนประกันวินาศภัย เป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในเรื่องการดำเนินการคืนเบี้ยประกันให้กับผู้เอาประกันภัยทุกรายตามกรมธรรม์ประกันภัย ที่อาคเนย์ประกันภัยยังมีภาระผูกพันตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อผู้เอาประกันภัยนั้นๆ ซึ่งประกอบด้วย 1.ผู้ถือกรมธรรม์โควิด-19 ของอาคเนย์ประกันภัยจำนวน 1,851,921 ราย และ 2.ผู้ถือกรมธรรม์ประเภทอื่นๆ (Non Covid-19) ของอาคเนย์ประกันภัยอีกกว่า 8,629,036 ราย หรือรวมกันประมาณ 10,480,957 ราย นายโชติพัฒน์ กล่าวอีกว่า รวมทั้งให้กองทุนฯ จัดหาผู้รับประกันภัยรายใหม่ให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามหลักเกณฑ์และแนวทางของกองทุนประกันวินาศภัย โดยอาคเนย์ประกันภัยเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านต่างๆ ในการดำเนินการของกองทุนประกันวินาศภัยดังกล่าว โดยผู้ถือกรมธรรม์ทั้งหมดจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ถือกรมธรรม์จะได้รับการคืนเบี้ยประกันตามสัดส่วน หรือได้รับการคุ้มครองต่อเนื่อง หากย้ายกรมธรรม์ไปยังบริษัทประกันภัยอื่น ทั้งนี้คู่ค้า อาทิ อู่ซ่อมรถ, โรงพยาบาล, ตัวแทน ของอาคเนย์ประกันภัยกว่า 9,000 ราย จะได้รับเงินชำระอย่างครบถ้วนหากอาคเนย์ประกันภัยยังมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน ซึ่งปัจจุบันอาคเนย์ประกันภัยยังสามารถจ่ายเงินคืนผู้เอาประกันภัยได้ครบถ้วนทุกราย และยังมีเงินเหลือพอที่จะชำระหนี้ให้คู่ค้าทั้งหมด รวมถึงพนักงานลูกจ้าง 1,396 คน แต่ความสามารถในการชำระหนี้ของอาคเนย์ประกันภัยจะลดลงหากการตัดสินใจดำเนินการในเรื่องนี้ล่าช้าออกไป โดยขณะนี้สถานะทางการเงินของอาคเนย์ประกันภัย มีสินทรัพย์สุทธิกว่า 1,800 ล้านบาทและเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Capital Adequacy Ratio) อยู่ที่ 170 % สูงกว่าเกณฑ์ที่ คปภ.กำหนดไว้ที่ 120 % ทั้งนี้เนื่องด้วยในส่วนข้อเสนอที่ให้อาคเนย์ประกันภัย โอนกิจการของอาคเนย์ประกันภัยให้แก่ บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทางบอร์ดไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีความเห็นว่าเมื่อบอร์ด คปภ.เป็นผู้เข้ามาดำเนินการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของอาคเนย์ประกันภัย ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กองทุนประกันวินาศภัยมีอยู่แล้ว ก็ควรให้กองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในเรื่องการดำเนินการคืนเบี้ยประกันให้กับผู้เอาประกันภัยทุกรายตามกรมธรรม์ประกันภัย ดังนั้นบริษัทจะมอบหมายให้ผู้รับมอบฉันทะนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของอาคเนย์ประกันภัยเพื่อลงมติเห็นชอบให้กองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้เข้ามาดำเนินการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของอาคเนย์ประกันภัยตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กองทุนประกันวินาศภัยมีอยู่ การพิจารณาให้อาคเนย์ประกันภัยในฐานะบริษัทย่อยของบริษัทฯ เลิกประกอบกิจการเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของบอร์ดที่จะพิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการไปได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม การเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและการจัดการเกี่ยวกับภาระและกรมธรรม์ประกันภัยทั้งหมดของอาคเนย์ประกันภัย จะต้องเป็นไปตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นของอาคเนย์ประกันภัย ซึ่งจะจัดให้มีการประชุมในวันที่ 26 ม.ค.65 โดยหากมีความคืบหน้าบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป