นายกฯ เยือนซาอุฯ ฝาก "ทำให้บ้านเมืองสงบสุขนะ" ด้าน "บิ๊กป้อม"ย้ำขับ21สส.ไปอยู่พรรคอื่นจบแล้ว เชื่อไม่กระทบองค์ประชุมสภา "อนุชา"ยันขาด 21 ส.ส.กลุ่ม "ธรรมนัส" ไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล ปัด "สามมิตร"คั่วเก้าอี้เลขาพปชร. "วิษณุ" ไม่สน "เรืองไกร" เตรียมร้องตีความปม 8 ปี "บิ๊กตู่" บอกเหลืออีกตั้ง 7 เดือน "เพื่อไทย" รุมถาม"ประยุทธ์"เป็นเจ้าภาพเอเปค คนไทยได้ประโยชน์อย่างไร แนะประชาชนจับตาใช้ผลานงบ 3,200 ล้าน คุ้มค่า หรือละลายแม่น้ำ ขณะที่ "สุรชาติ" เดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ เชิญชวนปชช.จับตาทุจริตเลือกตั้ง ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง(บน.6) เมื่อเวลา 07.00น. วันที่ 25 ม.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ,นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ,นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ,นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษเพื่อเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25-26 ม.ค.โดยการเยือนซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นไปตามคำเชิญของ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ทั้งนี้ นายกฯ มีกำหนดเข้าเฝ้าฯ และพบปะหารือกับ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน โดยมีรายงานว่าทั้งสองประเทศจะฟื้นฟูและยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ และแรงงาน โดย พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเยือนครั้งนี้จะมีโอกาสดีในการฟื้นความสัมพันธ์อันดีหรือไม่ว่า ก็ต้องดีกว่า 32 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเกียรติรับเชิญไปหารือ ฟื้นความสัมพันธ์เก่าๆ ก็ต้องดีขึ้น เมื่อถามว่า จะมีโอกาสที่แรงงานไทยจะได้กลับไปทำงานที่ซาอุฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทุกเรื่อง จะได้มีการพูดคุยหารือ ซึ่งต้องเริ่มต้นกันก่อนและต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อศึกษาหารือร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องของคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีและเรื่องวิธีการต่างๆ ที่ต้องพูดคุยกันต่อไป ขณะเดียวกันการเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร ในฐานะรัฐบาล ตามที่ข่าวออกไปแล้ว จึงขอให้รอฟังรายละเอียดหลังกลับมา ทั้งนี้นายกฯ ยังกล่าวฝากทิ้งท้ายด้วยว่า "ทำให้บ้านเมืองสงบสุขนะ" ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่ม รมว.แรงงาน กล่าวก่อนเดินทางว่า ในการเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียของนายกฯ และคณะ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น เพราะยังไม่เคยไป ซึ่งถือว่ามีบุญคุณกับครอบครัวของตนเองเนื่องจากพ่อของตนเองเคยทำงานที่ซาอุฯ เมื่อปี 2528 ขณะนั้นตนอายุ 11 ปี เพราะในอดีต แรงงานไทยได้เดินทางไปทำงาน 2-3 แสนคน จนทำให้เกิดการแต่งเพลงถึงคนที่ไปทำงาน ส่วนรายละเอียดนั้นรอนายกฯ ชี้แจง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ และคณะจะเดินทางกลับในวันที่ 26 ม.ค. เวลาประมาณ 08.45 น. ที่บน.6 โดยทันทีที่เดินทางถึง พล.อ.ประยุทธ์และคณะจะต้องเข้ามาตรการควบคุมโรค ซีลรูท ทั้งการตรวจเชื้อโควิด RT- PCR สังเกตุอาการ รักษาระยะห่าง โดยจะทำการตรวจ RT-PCR อีกครั้ง ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ เมื่อครบ 5 วัน หลังเดินทางกลับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบียของ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะส่งสัญญาณที่ดีสำหรับประเทศไทย แต่รายละเอียดเป็นอย่างไรไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม มันต้องเป็นสัญญาณที่ดี เพราะไม่อย่างนั้น อยู่ดีๆ เขาจะมาเชิญเราไปทำไม ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตเข้ามาเหมือนในอดีตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเขาติดต่ออะไรกันอยู่ ต้องรอดู ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงขั้นตอนหลังจากนี้เกี่ยวกับการขับส.ส. 21 คนออกจากพรรค เนื่องจาก นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม หนึ่งใน ส.ส.ที่ถูกขับออก ร้องขอให้มีการทบทวนมติว่า "มันจบไปแล้ว มันจบไปแล้ว" เมื่อถามว่า แสดงว่าจะไม่มีการทบทวนตามที่นายสมศักดิ์ ร้องขอใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ก็ไปอยู่พรรคใหม่" ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลว่าเมื่อ 21 ส.ส.ไปอยู่พรรคใหม่แล้วจะกระทบต่อเสียงที่จะเป็นองค์ประชุมในสภา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "พรรคใหม่นี้ก็จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและสนับสนุนรัฐบาล ไม่ต้องห่วง" เมื่อถามว่า จะส่ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ไปเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ของ 21 ส.ส.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเขา ตนจะไปรู้ได้อย่างไร เรื่องของเขา ส่วนที่บอกว่ามีกระแสข่าวว่าพล.อ.วิชญ์จะไปเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ก็ต้องไปถามกระแส "อยากรู้ก็ต้องไปถามกระแสดู คุณรู้จากกระแส ก็ต้องไปถามกระแสดู" เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าเสียงในสภาของพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้เพียงพอ ไม่มีปัญหาต่อการพิจารณากฎหมายใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เสียงไม่มีเปลี่ยนแปลงๆ เมื่อถามว่า นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ออกมายอมรับว่าอาจเกิดวิกฤติเสียงในสภาเมื่อ 21 ส.ส.ออกไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่มี คุณจะฟังประธานวิปหรือฟังผม" เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องสภาล่มหลายครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็คนมาไม่ครบทำอย่างไรได้ เป็นโควิด-19 กันตั้งเยอะแยะ เมื่อถามว่า หลังจากนี้ต้องกำชับสมาชิกพรรคเพิ่มหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าไม่ต้องกำชับ สมาชิกพรรครู้กันดี นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ประสานงานวิปรัฐบาล ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 21 ส.ส.ของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ จะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ ว่า คิดว่าเสียงในฝั่งของรัฐบาลคงไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อว่าไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ในสภา ขณะนี้เสียงยังไม่ปริ่มน้ำ เพราะจนถึงขณะนี้กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัสยังไม่ได้บอกว่าจะไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ดังนั้นเชื่อว่าในฝั่งรัฐบาลยังไม่มีปัญหาอะไร ยังไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นตามที่สื่อวิตกกังวล ยืนยันว่าความมั่นคงและเสถียรภาพของรัฐบาลยังมั่นคงเช่นเดิม ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ได้กำชับอะไรเกี่ยวกับเสียงในสภาหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องที่วิเคราะห์และวิจารณ์กันไปเองต่างๆ นานา ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าวิตกกังวลอะไร เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่านายกฯ อาจจะยุบสภาก่อนเดือนพ.ค. เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุชา กล่าวว่า ฝ่ายค้านก็ต้องพูดเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระ เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ยืนยันหรือไม่ว่าเสียงที่หายไปจะไม่มีปัญหาต่อรัฐบาล นายอนุชา กล่าวว่า ในวันประชุม หัวหน้าพรรคได้ยืนยันอย่างนั้น เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 21 ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ยื่นร้องขอให้หัวหน้าพรรคทบทวนมติขับใหม่อีกครั้งหนึ่ง คณะกรรมการบริหารพรรคจะสามารถทบทวนได้หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน ต้องดูข้อเท็จจริงต่างๆ แต่ขณะนี้เรื่องยังไม่เข้าสู่การพิจารณาใดๆ ขอให้รอก่อน ส่วนจะทำได้หรือไม่ ก็คงเป็นไปตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุไว้ว่า หากเรื่องยังไม่ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทางกรรมการบริหารพรรคสามารถทบทวนใหม่ได้ เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นแกนนำของพรรคคนหนึ่ง ที่ผ่านมามี ส.ส.ที่อยู่ในกลุ่ม 21 ส.ส.มาปรึกษาหรือไม่ว่าอึดอัด หรือถูกขับออกโดยไม่รู้ ไม่เต็มใจ นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่มีใครมาพูดคุยกับตน ผู้สื่อข่าวถามถึงการคัดเลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่แทนร.อ.ธรรมนัส จะต้องเป็นโควตาของกลุ่มสามมิตรหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่มี และความจริงกลุ่มสามมิตรไม่มีอยู่แล้ว ส่วนรักษาการเลขาธิการพรรคในระหว่างที่ยังไม่มีการตั้งเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น ทางพล.อ.ประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์ถึงกรณีจะมีคนร้องให้วินิจฉัยระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า อีกตั้ง 7 เดือน ไม่ต้องห่วงพล.อ.ประยุทธ์ เพราะแม้ว่าจะถามไปตอนนี้เขาก็ไม่ตอบ ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วช่วงไหนที่จะสอบถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องให้มีสัญญาณว่าเหมาะสม ถูกเวลาแล้ว ใกล้แล้ว และจำเป็นต้องพิจารณาประเด็นนี้ แต่ไม่ใช่ว่ามีเรื่องแล้วถามไป อย่างนั้นมันไม่ทัน ส่วนที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะไปร้องนั้น ตนไม่ทราบ นายเรืองไกรจะไปร้องที่ไหน ถ้านายเรืองไกรจะตรวจสอบเป็นเรื่องของเขา แต่ถ้าจะสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ มันยังไม่มีเรื่อง อีกตั้ง 7 เดือน และตนไม่รู้ว่านายเรืองไกรจะร้องด้วยวิธีไหน แต่วิธีอื่นทั้งหมดก็มี แต่คนเขาอาจจะไม่เชื่อถือเท่ากับศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าเรื่องนายกฯ อย่างไรต้องรอให้ใกล้ๆ เดือน ส.ค.อยู่ดี เมื่อถามว่า หากครบกำหนดเดือน ส.ค. จะเป็นช่วงเดือนไหนถึงจะเหมาะสมที่จะร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัย นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องก่อนหน้านั้นสัก 1-2 เดือน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ประจำปี 2565 พร้อมระบุว่า หัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้คือ "Open Connect Balance" หรือ "เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล" โดยจะเน้นความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น ความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างกันและการท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน โดยนำเสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy Model) เป็นต้น ที่พรรคเพื่อไทย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรมว.ศึกษาธิการ และที่ปรึกษาคณะทำงานต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การบริหารประเทศในประชาคมโลก ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการที่ประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือระหว่างประเทศได้ มีนายกรัฐมนตรีที่ไร้ภาวะความเป็นผู้นำ หัวข้อการประชุมจึงดูไม่สง่างาม ไม่สมบทบาทกับการเป็นประเทศเจ้าภาพการประชุมเอเปคเทียบเท่ากับผู้นำในครั้งที่ผ่านมา ดังจะเห็นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการส่งออกของไทยในระยะ 7 ปี ที่ผ่านมา มีการหดตัวอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าทั่วโลกจะมีการระบาดของโรคโควิด -19 เช่นกัน แต่ผลกระทบของนานาประเทศกลับมีน้อยกว่าที่ประเทศไทยได้รับ สาเหตุหลักเป็นเพราะการบริหารจัดการที่ผิดพลาดในทุกด้านของรัฐบาลเอง จนทำให้ผลกระทบรุนแรง แผ่ขยายเป็นวงกว้างกินเวลายาวนานขนาดนี้ ทั้งนี้ ในการเตรียมการประชุมเอเปคซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในรอบ 10 ปี แต่ประเทศไทยในฐานะผู้จัดงานใหญ่กลับไม่เคยประกาศถึงวิธีการและเป้าหมายในการบรรลุข้อตกลงร่วมแบบทวิภาคีกับกลุ่มประเทศสมาชิกเอเปคเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากฝีมือของรัฐบาล ไม่เคยมีแผนดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากประเทศสมาชิก เทียบไม่ได้กับการประชุมในฐานะประธานเอเปคของประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ดำเนินการจัดการประชุมอย่างสมบูรณ์แบบทุกด้าน ผู้นำแต่ละประเทศเห็นความสำคัญกับวาระการจัดงานของประเทศไทย เกิดผลการเจรจาจนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมากมาย แต่ในขณะนี้ไทยซึ่งรับตำแหน่งเจ้าภาพอย่างเป็นทางการมาแล้ว 2 เ