ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 8,112 ราย มาจากต่างประเทศ 177 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ATK 2,095 ราย จะมีผู้ติดเชื้อรวมพุ่งสูงถึง 10,207 ราย วันนี้ยอดผู้ป่วยอาการหนักปอดอักเสบ 565 ราย และมีอาการโคม่าต้องใส่เครื่องช่วยหายใจจำนวน 129 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน พบยอดผู้เสียชีวิต 19 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 1,143 ราย พบการเสียชีวิตกระจายในหลายพื้นที่ โดยพบเสียชีวิตสูงสุดในพิษณุโลก 3 ราย  ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 154 ราย รักษาหาย 7,582 ราย ยังรักษาอยู่ 83,231 ราย  วันที่ 22 ม.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 8,112 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,935 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 177 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 7,746 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 35 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 154 ราย)  รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63  รวม 2,369,814 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 2,095 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 10,207 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 18 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 22,019 ราย หายป่วยอีก 7,582 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,264,564 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 83,231 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.41,825 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 41,406 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 565 ราย มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 129 ราย หมายความว่าระบบสาธาณสุข รองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอยู่ได้ สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 19 ราย พบเป็นคนไทย 18 ราย สเปน 1 ราย เป็นเพศชาย 9 ราย เพศหญิง 10 ราย อายุ 44-88 ปี อยู่ในพื้นที่ พิษณุโลกมากสุด 3 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น