เมื่อวันที่ 22 ม.ค.65 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.ศรัณย์ ศรีพักตร์ สว.กก.4 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านโคก จว.เพชรบูรณ์ และ สภ.แก่งคอย จว.สระบุรี ร่วมกันจับกุม นายศิรสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 2/2565 ลง 21 ม.ค.65 ในข้อหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี, พาบุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ได้ที่ ริมถนนสาธารณะ หมู่ที่ 6 บ้านเขาเกตุ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหามีมักจะทำตัวเป็นผู้ใจบุญ ปฏิบัติธรรม คอยช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน จนเป็นที่น่าเชื่อถือของชาวบ้าน และได้ใช้ความน่าเชื่อถือของตนสร้างความสนิทสนมกับครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย จนเด็กหญิงผู้เสียหายและครอบครัวเกิดความไว้วางใจ ต่อมาเมื่อปี 2561 ขณะที่ผู้เสียหายอายุ 10 ปีเศษ ผู้เสียหายได้เข้าไปเล่นที่บ้านพักของผู้ต้องหาตามปกติ แต่ผู้ต้องหาได้อาศัยโอกาสตอนที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำ เดินตามเข้าไปใช้กำลังบังคับ ก่อนจะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย และข่มขู่ผู้เสียหายว่าอย่านำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร
เนื่องจากจะเป็นเรื่องใหญ่ ผู้เสียหายและครอบครัวจะต้องได้รับความอับอาย และหากผู้เสียหายอยากได้อะไรก็จะหาซื้อให้ ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว จึงไม่ได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้คนในครอบครัวฟัง โดยหลังจากนั้นผู้ต้องหาก็ยังคอยหาโอกาสล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนผู้เสียหายเรื่อยมาหลายครั้ง เป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปี กระทั่งปลายเดือน ธ.ค. 64 ผู้เสียหายมีความอึดอัดใจและไม่สามารถทนกับพฤติกรรมดังกล่าวของผู้ต้องหาได้อีก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องดังกล่าวให้กับคนในครอบครัวฟัง ผู้ปกครองและญาติของผู้เสียหายจึงได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโคก จ.เพชรบูรณ์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายศิรสิทธิ์ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้นำกำลังลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหานำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโคก จ.เพชรบูรณ์ ดำเนินคดีต่อไป สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหามีมักจะทำตัวเป็นผู้ใจบุญ ปฏิบัติธรรม คอยช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน จนเป็นที่น่าเชื่อถือของชาวบ้าน และได้ใช้ความน่าเชื่อถือของตนสร้างความสนิทสนมกับครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย จนเด็กหญิงผู้เสียหายและครอบครัวเกิดความไว้วางใจ ต่อมาเมื่อปี 2561 ขณะที่ผู้เสียหายอายุ 10 ปีเศษ ผู้เสียหายได้เข้าไปเล่นที่บ้านพักของผู้ต้องหาตามปกติ แต่ผู้ต้องหาได้อาศัยโอกาสตอนที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำ เดินตามเข้าไปใช้กำลังบังคับ ก่อนจะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย และข่มขู่ผู้เสียหายว่าอย่านำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร
เนื่องจากจะเป็นเรื่องใหญ่ ผู้เสียหายและครอบครัวจะต้องได้รับความอับอาย และหากผู้เสียหายอยากได้อะไรก็จะหาซื้อให้ ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว จึงไม่ได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้คนในครอบครัวฟัง โดยหลังจากนั้นผู้ต้องหาก็ยังคอยหาโอกาสล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนผู้เสียหายเรื่อยมาหลายครั้ง เป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปี กระทั่งปลายเดือน ธ.ค. 64 ผู้เสียหายมีความอึดอัดใจและไม่สามารถทนกับพฤติกรรมดังกล่าวของผู้ต้องหาได้อีก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องดังกล่าวให้กับคนในครอบครัวฟัง ผู้ปกครองและญาติของผู้เสียหายจึงได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโคก จ.เพชรบูรณ์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายศิรสิทธิ์ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้นำกำลังลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหานำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโคก จ.เพชรบูรณ์ ดำเนินคดีต่อไป สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา