วันที่ 19 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากตัวแทนผู้ประกอบการรถบรรทุกอ้อยจังหวัดหนองบัวลำภู ว่าเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภูตั้งด่านกวดขันจับปรับรถบรรทุกอ้อยทำให้ไม่กล้าขับรถมาส่งอ้อยให้โรงงาน วอนขอความเห็นใจให้ผ่อนปรนในข้อหาที่เล็กๆน้อยๆบ้าง และช่วงบรรทุกอ้อยเข้าโรงงานมีระยะเวลาแค่ 3 เดือนกว่า เป็นพืชผลทางการเกษตร กระทบกับพี่น้องประชาชนรากหญ้าโดยตรง หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายใหญ่ ( นามสมมุติ) เป็นตัวแทนผู้ประกอบการรถบรรทุกอ้อย เล่าว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ตั้งด่านกวดขันจับกุมรถบรรทุกอ้อยเกือบจะทุกวัน ทำให้คนขับรถบรรทุกอ้อยไม่กล้าขับรถขึ้นมาบนถนน เพราะกลัวจะโดนจับซึ่งตรงนี้ตนเองก็เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ รถก็อาจจะผิดบ้างแต่ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่อะลุ่มอล่วย เพราะบางครั้งถูกจับปรับเป็นเงินตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่ข้อหาความผิด แต่ขับรถมาส่งอ้อยแต่ละครั้งหักค่าแรงงาน ค่าน้ำมันรถแล้วเหลือแค่เที่ยวละ 1,400 บาทแค่นั้น แต่ถ้าโดนจับปรับ 1 ครั้งต้องวิ่งรถตั้งหลายเที่ยวกว่าจะได้เงินค่าปรับคืน โดยปีที่ผ่านมาราคาอ้อยก็ไม่ดี ผู้ประกอบการที่ปลูกอ้อยต้องขาดทุนยับเยิน เป็นหนี้เป็นสินพอมาถึงปีนี้กะว่าราคาอ้อยขยับขึ้นมาบ้าง พอจะได้เงินไปใช้หนี้ในปีที่ผ่านมา ก็มาเจอปัญหาแบบนี้ และช่วงบรรทุกอ้อยเข้าโรงงานมีระยะเวลาแค่ 3 เดือนกว่า เป็นพืชผลทางการเกษตร กระทบกับพี่น้องประชาชนรากหญ้าโดยตรง ไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากเลย อยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่อนปรนให้กับรถบรรทุกอ้อยและผู้ประกอบการรถบรรทุกอ้อยบ้าง ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม ดร.ยุทธศักดิ์ ประเสริฐ ขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภู ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถบรรทุกอ้อย ทางสำนักงานขนส่งจึงได้ยึดถือหลักกฎหมายและความปลอดภัยเป็นหลัก ให้รถบรรทุกอ้อยทุกคันต้องต่อภาษี และ พรบ.ประจำปีให้ถูกต้อง มีการติดจีพีอาร์เอสเพื่อตรวจสอบความเร็ว โดยได้กำชับให้ส่วนสูงของรถอ้อยต้องไม่เกิน 3 เมตร 80 เซนติเมตร และสายรัดอ้อยจะต้องรัดไม่ต่ำกว่า 3 เส้น เพื่อความปลอดภัย ไม่ให้อ้อยหล่นลงมาบนถนนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และที่ผ่านมาบางคันก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนแล้ว แต่ถึงอย่างไรตนเองก็จะยึดถือกฎหมายเป็นหลัก ที่ผ่านมาตนเองทำตามกฎหมายทุกอย่าง ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะได้ทราบต่อไป