"นายกฯ"ลั่นกลาง"ครม."ขอพรรคร่วมฯ "รัก-สามัคคี" ชี้ความขัดแย้งคลี่คลายแล้ว "บิ๊กป้อม"ไม่สบายใจ! สั่ง "ปารีณา" ลบโพสต์ แสดงความเห็นไม่เหมาะสมปมเลือกตั้งซ่อมภาคใต้ "พปชร."ห่วงเรตติ้ง "บิ๊กตู่" แก้สินค้าแพงไม่ได้ กระทบเลือกตั้งส.ส.กทม.-ผู้ว่าฯกทม.แน่ ด้าน"5 เครือข่าย"ผนึกม็อบหน้าทำเนียบฯ จี้แก้ปัญหาความเดือดร้อนปชช. ส่วน"เรืองไกร"ลุยยื่นกกต.ตรวจสอบ "อธิบดีสรรพากร-รมว.คลัง-รมช.คลัง" ปมนายกฯ ฝ่าฝืนรธน.มาตรา 186 วรรคสอง หรือไม่ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ม.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อปรารภพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมในที่ประชุมครม.ว่า เรื่องการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ แสดงความยินดีกับว่าที่ส.ส.ใหม่ ที่จ.สงขลา และจ.ชุมพร ซึ่งการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย นายกฯขอบคุณหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกัน โดยหลังจากนี้ขอให้ทุกฝ่ายทำงานด้วยความรัก และความสามัคคีต่อไป "นายกฯ ย้ำว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลร่วมกันทำงานด้วยกันอย่างดีมาตลอด ขณะนี้เรื่องของการเมืองได้คลี่คลายแล้ว ขออย่าได้ขยายให้เกิดความแตกแยก ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านทำงานร่วมกันด้วยความเรียบร้อยต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชน เป็นไปตามเป้าหมายของประเทศ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" จากนั้น นายธนกร ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ตามที่นายกฯมอบหมายกรณีที่มีส.ส.พลังประชารัฐ บางคนออกมาโจมตีพรรคร่วมอย่างหนัก ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อห้ามปราม ไม่ให้กระทบการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า เรื่องนี้นายกฯ ชี้แจงโดยขอให้พรรคร่วมรัฐบาล รัก สามัคคี ในการทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชนต่อไป อย่าให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน หรือเกิดความขัดแย้งเรื่องที่ไม่จำเป็น แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความไม่สบายใจกับคนใกล้ชิดในพรรคพร้อมกับเปรยว่า กรณีลูกพรรคไปแสดงความเห็นส่วนตัวโดยการโพสต์ในโซเชียลไม่เหมาะสม หรือการแสดงความคิดเห็นอื่นๆ ทำให้พรรคเสียชื่อเสียงซึ่งในฐานะหัวหน้าพรรคก็ต้องมีการตักเตือน นอกจากนี้ยังได้ตักเตือนลูกพรรคคนดังกล่าว และสั่งให้ลบโพสต์ออกจากเฟซบุ๊กทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ที่ชนะเลือกตั้งซ่อมที่จ.ชุมพรและจ.สงขลา ทำให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์เตรียมดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณา ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย ส่วน นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความพ่ายแพ้ของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งซ่อมจ.สงขลาและชุมพร ว่า การพ่ายแพ้ดังกล่าวยอมรับว่าทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค และมีโอกาสจะบานปลาย แต่จะบานปลายแค่ไหนยังไม่รู้ สาเหตุที่แพ้เป็นเพราะคนที่ได้รับมอบหมายจากพรรคให้ทำหน้าที่โดยตรงในการเลือกตั้งซ่อมไม่ได้รับโอกาส ถูกปิดกั้นในการทำงาน ส่วนคำพูดบนเวทีปราศรัยของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มีผลต่อคะแนน เพราะคนภาคใต้มีการศึกษา มีความอ่อนไหวทางการเมืองสูง การพูดอะไรต้องละเอียดรอบคอบ เพราะส่งผลต่อคะแนน ส่วนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ยังแก้ปัญหาสินค้าแพงไม่ได้ จะมีผลกระทบต่อคะแนนแน่ รวมถึงมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของพล.อ.ประยุทธ์เองก็จะมีปัญหาตามมาด้วย ถ้าของแพงไม่ว่ารัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ สนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เป็นเครื่องชี้วัดคะแนนนิยมพล.อ.ประยุทธ์โดยตรง ถ้าแพ้ก็ชี้ชัด คะแนนนิยมมีปัญหา ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้เริ่มมีปัญหาเลือดไหลออกในพรรคพลังประชารัฐ โดย นายสุพล ฟองงาม และนายสันติ กีระนันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไปอยู่ร่วมกับพรรคสร้างอนาคตไทยของ นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง นายวีระกร กล่าวว่า นายสุพลและนายสันติอยู่ในฝั่งของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไป สิ่งที่น่าห่วงคือคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ขณะนี้เพิ่งดิ่งลง ถ้ายังดิ่งลงมากกว่านี้ จะมีเลือดไหลออกมาตามมาอีกแน่ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหาดี ใครจะไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับฝีมือการบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากกรณีเว็บไซต์รัฐบาลแถลงข่าวว่า นายกฯรับทราบข้อกังวล "ภาษีคริปโท" และมอบกรมสรรพากรให้ชี้แจงแนวทาง "การคิดภาษี-ยื่นภาษี" ให้ชัดเจนนั้น เรื่องนี้อาจมีปัญหาตามมา เพราะภาษีคริปโทถือเป็นเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 ประเภทเงินได้ตาม มาตรา 40 (4) ต้องเก็บตาม มาตรา 41 ไม่ได้รับยกเว้นตาม มาตรา 42 แต่ตามข่าวของกรมสรรพากร เลขที่ ปชส.33/2565 ที่ระบุว่า นายกได้มอบหมายให้กรมสรรพากรเร่งสร้างความชัดเจนในเรื่องของหลักเกณฑ์การคิดคำนวณภาษีจากกำไรการขายหรือการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซี ให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปนั้น เห็นว่ากรณีดังกล่าวน่าจะไม่เป็นไปตามประมวลรัษฎากรในมาตราที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการที่นายกฯมอบหมายดังกล่าวอาจมีปัญหาข้อกฎหมายตามมา เพราะการเก็บภาษีคริปโทควรเป็นไปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (4) (ซ) (ฌ) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดตั้งแต่ปี 2561 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯประกอบกับเรื่องภาษีคริปโทนั้น รมว.คลังและรมช.คลังก็ให้ข่าวว่ามีกฎหมายบัญญัติให้มีการจัดเก็บภาษีคริปโท ซึ่งหมายถึงประมวลรัษฎากรนั่นเอง "การให้ข่าวของรมว.คลังกับรมช.คลังจึงน่าจะเป็นไปตามกฎหมาย และอาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่นายกฯมอบอธิบดีกรมสรรพากร ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าการที่นายกฯมอบหมายอธิบดีกรมสรรพากรนั้น หากไม่เป็นไปตามประมวลรัษฎากรก็จะมีปัญหาตามมาว่ากรณีของนายกฯ จะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 วรรคสอง หรือไม่ เรื่องนี้จึงมีเหตุที่ต้องร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากอธิบดีกรมสรรพากร รมว.คลัง และ รมช.คลัง ก่อนว่านายกฯอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติกฎหมายใด หรือกระทำตามหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายใด มาใช้สั่งอธิบดีกรมสรรพากรตามกรณีดังกล่าว หาก กกต.สอบข้อเท็จจริงแล้ว มีกรณีที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 186 วรรคสอง ปัญหาที่จะตามมาก็คือนายกฯอาจจะเข้าข่ายใช้สถานะ หรือตำแหน่งกระทำการใดไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของอธิบดีกรมสรรพากร ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 วรรคสอง หรือไม่ วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่ม 5 เครือข่าย ประกอบด้วย เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีองค์การบริหาร องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และกลุ่มทะลุฟ้า ร่วมจัดการชุมนุม ที่หน้าทำเนียบฯ เพื่อติดตามการยื่นข้อเสนอแก้ปัญหาปากท้อง เรียกร้องมาตรการเร่งด่วน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยกล่าวว่า วันนี้จะมีการจัดกิจกรรมชุมนุมโดยสงบ เพื่อยื่นหนังสือต่อรัฐบาลในการเรียกร้องให้แก้ปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้งได้ประกาศว่าการรวมตัวมีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินในการมั่วสุมและรวมตัว