วันนี้ (14 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการบูชากราบไหว้ศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี และเทพเจ้าตั่วเหล่าเอี๊ย เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี๊ย และ เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เพื่อแก้ปีชงเป็นไปอย่างคึกคัก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนเดินทางมาบูชาเทพเจ้าหลายองค์กันอย่างคึกคัก โดยคณะกรรมฯ สมัยที่ 72 อธิบายว่า ปีชงเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับความเชื่อของคนไทยที่บุคคลตั้งแต่เกิดจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครอง ส่วนชาวจีนจะมีเทพ ดังนั้นหากปีนักษัตรใดเข้าเกณฑ์การรับอิทธิพลหรือการปะทะ จะได้รับผลจากเทพ โดยการแก้ปีชง หรือบรรเทาเคราะห์กรรมของคนที่ศรัทธาในเทพเจ้าจีน เชื่อกันว่า ควรต้องไหว้องค์เทพเจ้าตั่วเหล่าเอี๊ย เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี๊ย และ เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย ซึ่งศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ได้อัญเชิญจากวัดสุนทรประดิษฐ์ ออกมาให้ผู้คนในพื้นที่แต่ต่างถิ่น ทั้งชาวไทย ชาวไทยเชื่อสายจีน ได้การกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อ โดยมีกรรมการค่อยดูแล แนะนำขั้นตอนการบูชากราบไหว้ขอพร ตามความเชื่อส่วนบุคคลปีชง 2565 ได้แก่ปีชง (100%) ได้แก่ ปีนักษัตรวอก และปีชงร่วม ได้แก่ ปีนักษัตร ขาล, กุน, มะเส็ง นางศมน ชคัตธาดากุล คณะกรรมการศาลปู่-ย่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์สมัยที่ 72 เปิดเผยว่า หลังไหว้แก้ปีชงแล้ว ควรเสริมดวงด้วยวัตถุมงคล โดยคนที่เกิดปีวอก ควรบูชากบ 3 ขา หรือกบคาบเหรียญ เป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมบูชา เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมในเรื่องของการทำมาค้าขาย ความร่ำรวย มีเงินทองไหลมาเทมา ปีชาล ควรบูชาน้ำเต้าบรรจุผงธูปอากงอาม่า ศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ซึ่งจะช่วยคุ้มครองทำให้มีวิตที่ดีขึ้น และดูดทรัพย์เรียกเงินเรียกทองไหลมาเทมา ส่งเสริมเอายุสุขภาพไร้โรคภัยไข้เจ็บ ปีกุน ควรบูชาปลาหลีฮือ จะทำให้เราเหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์ ร่ำรวยเงินทอง และปีสุดท้ายปีมะเส็ง ควรบูชา ก้อนทองจะเสริมสิริมงคล สมปรารถนา มีเงินทองเจริญรุ่งเรือง ทั้งนี้พิธีแก้ชงจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม - 16 กุมภาพันธ์ 2565 โดยขอความร่วมมือทุกท่านที่จะเข้ามาไหว้ที่ศาลเจ้าปู่-ย่า และมาแก้ชง สวมหน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิที่จุดคัดกรอง รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันโควิด19 ด้วย