“กรุงไทย” ยกระดับการลงทุนหุ้นต่างประเทศ เตรียมเสนอขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ DR อ้างอิงหุ้นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก “Alibaba” และ “Tencent” ครั้งแรกของประเทศในปี 2565 หลัง ก.ล.ต.ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง เปิดโอกาสนักลงทุนรายย่อยเข้าถึงหุ้นบริษัทชั้นนำระดับโลกได้ง่าย ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 DR เตรียมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อ IPO เร็วๆนี้ นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร ทุกกิจกรรมหลักในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออมและการลงทุน ล่าสุด ธนาคารเตรียมออกและเสนอขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) อ้างหุ้นสามัญต่างประเทศ เป็นครั้งแรกในประเทศ โดยอ้างอิงหุ้นสามัญของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่างอาลีบาบา (Alibaba) และเท็นเซ็น (Tencent) เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย สามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศชั้นนำได้อย่างสะดวก รวดเร็วผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเหมือนหุ้นทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ “การออกและเสนอขาย DR ครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการลงทุน และลดข้อจำกัดการลงทุนหุ้นต่างประเทศของนักลงทุนไทยในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการเข้าถึงการลงทุน เพราะการลงทุนหุ้นต่างประเทศปัจจุบันมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ มีการกำหนดขั้นต่ำในการลงทุน และมีค่าธรรมเนียมซื้อขายสูง แต่ DR สามารถลงทุนผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่ได้ทันที ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 DR และซื้อขายเป็นเงินบาท ตัดปัญหาเรื่องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศ ทำให้การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยธนาคารในฐานะผู้ออก DR จะทำหน้าที่ซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศแล้วนำมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมจะทำหน้าที่ติดตามข่าวสารอัพเดตให้กับนักลงทุน เมื่อหุ้นอ้างอิงต่างประเทศจ่ายเงินปันผล ธนาคารจะส่งผ่านเงินปันผลหลังหักค่าใช้จ่ายให้กับผู้ถือ DR ” โดยธนาคารประเมินว่า หุ้น Alibaba และ Tencent มีความน่าสนใจ เพราะเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและนักลงทุนทั่วโลก มีสภาพคล่องสูง โดยเฉลี่ยมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงสุดติด 5 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมาโดยตลอด อีกทั้งในปี 2564 ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ราคาหุ้นตลาดฮ่องกงได้ปรับฐานลงมาอยู่ในจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะราคาที่ปรับลงสะท้อนข่าวร้าย (Price-in) ไปค่อนข้างมากแล้ว โดยปัจจุบันธนาคารได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้ออก DR เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการยื่นไฟลิ่งที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คาดจะมีการเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป (IPO ) ภายในต้นปี 2565 ทั้งนี้ นอกเหนือจาก DR ที่อ้างอิงหุ้น Alibaba และหุ้น Tencent แล้วธนาคารยังมีแผนที่จะออก DR อ้างอิงหุ้นและ ETF ชั้นนำในตลาดอื่นๆอีก เพื่อช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยมีทางเลือกในการลงทุนรอบโลกที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น