ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(10ม.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 1,657.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.21 จุด (+0.01%) มูลค่าการซื้อขายราว40,486 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนบวกและแดนลบสลับกัน โดยทำระดับสูงสุด 1,661.67 จุด และระดับต่ำสุด 1,654.05 จุด นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวแคบมากในช่วงสร้างฐาน โดยมีทั้งปัจจัยลบและบวก ทั้งนี้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือน พ.ย.ออกมาแย่กว่าคาด และการแพร่ระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ขณะที่บ้านเรานักลงทุนระมัดระวังเพิ่มขึ้น แม้ว่ารัฐจะไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์หรือปิดพื้นที่เพิ่ม แต่มีการปรับสีพื้นที่เพื่อคุมเข้มมากขึ้น ดังนั้นจึงยังต้องติดตามสถานการณ์โควิดในระยะต่อไป ขณะเดียวกันให้รอติดตามการการสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารประจำวุฒิสภาในวนที่ 11 ม.ค.นี้หลังจากมีการเสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 อาจมีการระบุความกังวลของเฟดเพิ่มเติม หลังจากคราวก่อนเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและปรับลดขนาดงบดุล ทั้งนี้ต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและจีนในวันที่ 12 ม.ค.65 รวมทั้งปลายสัปดาห์นี้บริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นไทยและสหรัฐจะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายน่าจะแกว่งตัวในกรอบไซด์เวย์ในลักษณะพักฐานต่อไป เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด แนวต้านที่ 1,660-1,665 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,307.21 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,032.21 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท EA มูลค่าการซื้อขาย 911.57 ล้านบาท ปิดที่ 96.50 บาท ลดลง 0.50 บาท CPF มูลค่าการซื้อขาย 909.65 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท ลดลง 0.25 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 861.84 ล้านบาท ปิดที่ 38.50 บาท ลดลง 0.25 บาท