ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยังไม่จางหาย ทั้งเดลตาที่ยังมีการติดเชื้ออยู่ตลอดเวลา รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอนที่รุกคืบเข้ามาในประเทศไทย แต่ทุกหน่วยงานต่างช่วยกันสกัดกั้นกันอย่างเต็มที่ ขณะที่การฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวก็ทำควบคู่กันไป เพื่อให้เศรษฐกิจโดยรวมหมุนเวียนต่อไป ฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยว โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ ได้เปิดแพลตฟอร์มระบบการอำนวยความสะดวกเพื่อผู้เดินทาง (Ease of Traveling) บนเว็บไซต์ Entry Thailand เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลและแอปพลิเคชั่นที่สำคัญตรงความต้องการของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ ระหว่างท่องเที่ยวในประเทศ และก่อนเดินทางออกนอกประเทศ เป็นเว็บไซต์เดียวที่เชื่อมโยงระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น เชื่อมโยงระบบ Thailand Pass ระบบหมอชนะ ระบบการขอคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวจะได้รับความพึงพอใจ ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยด้วยโครงการภูเก็ตแซนบ๊อกซ์สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยราว 6 หมื่นบาทต่อคน ขณะที่ตลาดในประเทศ มีโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมของสมาคมโรงแรมไทยในเดือนตุลาคม พบว่าโรงแรม 67% กลับมาเปิดกิจการ อัตราการเข้าพักเพิ่มจาก 15% ในเดือนกันยายนเป็น 24% การจ้างงานกลับมาประมาณ 60% ทั้งนี้ นายยุทธศักดิ์ ยังกล่าวถึงการประชุมใน เรื่องการปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย จากมติล่าสุดของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางในประเภท Test and Go ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว ยังสามารถเดินทางเข้าไทยได้ตามปกติ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ต้องมีมาตรการตรวจสอบสถานที่พำนัก มีการรายงานและเข้ารับการตรวจหาเชื้อในวันแรกที่มาถึงไทย และตรวจหาเชื้อ (RT-PCR) ในครั้งที่ 2 เมื่อเข้าพักครบวันที่ 5 หรือ 6 ซึ่งในการตรวจครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้จัดหาสถานที่ตรวจและออกค่าใช้จ่ายให้ โดยโรงแรมจะต้องเป็นผู้ประสานข้อมูลให้ลูกค้าทราบอีกที่หนึ่ง ซึ่งในส่วนรัฐบาลตั้งเป้าดำเนินการให้ได้ 100% ต่อไป ซึ่งขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันย้ำให้นักท่องเที่ยวดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นหมอชนะ เพื่อการตรวจสอบที่ทั่วถึง มีประสิทธิภาพ และลดโอกาสที่จะเกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆ สร้างความมั่นใจให้กับคนในประเทศ และนักท่องเที่ยวเองอีกด้วย กระตุ้นเดินทางในประเทศ ด้าน นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า ในปี 2565 ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบหนักต่อเนื่อง ซึ่งจากการประเมินน่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณเดือนละ 3 แสนคน ยอดรวมทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านคน โดยยังต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นหลัก ดังนั้นจึงอยากเสนอให้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ขณะที่ นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน กล่าวว่า ทางหัวหินมีโครงการ หัวหิน รีชาร์จ ที่เกิดจากความร่วมมือของคนในพื้นที่อย่างแท้จริงระหว่างภาครัฐ สาธารณสุขและภาคเอกชนในพื้นที่ ใช้โมเดลเดียวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องมีเอกสารการรับวัคซีน หลักฐานการจองโรงแรมที่พักล่วงหน้าในโรงแรมSHA+ ตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง กรมธรรม์ประกันสุขภาพ หนังสือรับรองปลอดโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าไทย เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ ในการปรับมาตรการควบคุมโรค เพื่อไม่ให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับที่เพิ่มขึ้นจนต้องประกาศระงับโครงการ และขณะนี้เราอยู่ระหว่างการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่